นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากโควิด-19ทำให้เศรษฐกิจเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เพราะมูลค่าการท่องเที่ยวของไทยปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท ขณะนี้มีคนตกงานแล้ว 3 ล้านคน ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการใหม่เพิ่มเติม หรือมาตรการเดิมขยายออกไปให้เกิดผลจะมีคนตกงานปีนี้ 6-7 ล้านคน และมีผู้ประกอบการทยอยปิดกิจการเพิ่มมากขึ้น
"ผมคิดว่ารัฐบาลต้องใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจมากกว่านี้ วงเงินจากการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน1.9 ล้านล้านบาท ยังไม่เพียงพอ เห็นว่ารัฐบาลควรออกพ.ร.ก. กู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อมาดูแลเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งสามารถทำได้เพราะหนี้สาธารณะของประเทศอยู่ระดับต่ำ ซึ่งจะมีการเสนอในคณะฟื้นฟูเศรษฐกิจหากรัฐบาลมีการตั้ง" นายสุพันธุ์ กล่าว
สำหรับภาระกิจสำคัญเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ คือ การตั้งคณะทำงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ เหมือนคณะทำงานแก้ปัญหาโควิด-19 ที่รัฐบาลดำเนินการได้ผลดีในปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลควรรีบตั้งคณะทำงานดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เพราะมี ครม. ใหม่แล้ว การเมืองนิ่งแล้ว คณะทำงานนี้จะเสนอมาตรการในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องกระจายเป็นมาตรการย่อยแล้วค่อย ๆ เสนอขึ้นมาเหมือนในอดีต
ทั้งนี้ปัจจุบันภาคเอกชนได้มีการรวมตัวกัน นอกเหนือจาก คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่มี สอท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และยังมีเอกชนเข้ามาร่วมเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่จะเข้าร่วมเป็นคณะทำงานฟื้นฟูเศรษฐกิจภาครัฐ
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่คณะทำงานฟื้นฟูเศรษฐกิจควรเร่งดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาสภาพคล่องของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งภาคเอกชนจะเสนอให้มีการยืดหนี้ออกไปอีก 2 ปี โดย 6 เดือนแรกพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ส่วนที่เหลืออีก 1 ปี ครึ่ง จ่ายแต่ดอกเบี้ย พักเงินต้น
"เอกชนเห็นว่าปัญหาโควิด-19 ยืดเยื้อถึงปีหน้า ซึ่งภาคเอกชนยังไม่สามารถทำรายได้เข้ามาจนมีกำไรได้ ดังนั้นจึงมีการเสนอยืดเวลาการพักชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี ไปจนถึงปี 2565 โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการผ่อนผันเงื่อนไขให้สถาบันการเงินไม่นับการพักหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้เสีย" นายสุพันธุ์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังจะมีการเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพราะมีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งยังมีกำลังซื้อ รวมทั้งภาครัฐต้องเร่งการใช้จ่าย และการเร่งให้บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาช่วยค้ำประกันปล่อยกู้ซอฟท์โลนของ ธปท. วงเงิน 5 แสนล้านบาท ที่ขณะนี้ปล่อยกู้ได้เพียง 1 แสนล้านบาท จะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น