ก.แรงงาน เยี่ยมผู้เข้าร่วมจ้างงานโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ปลื้ม! เฟสแรก ชาวบ้านได้อาชีพด้วยเกษตรทฤษฎีใหม่
รองปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับผู้เข้าร่วมการจ้างงานในโครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด – 19 ปลื้มใจ ชาวบ้านนำความรู้จากเกษตรทฤษฎีใหม่ไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ หลังจากร่วมโครงการในระยะที่ 1 ขณะที่หลายคนสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการต่อในระยะที่ 2 ณ ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านบ่อหวี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับผู้เข้าร่วมการจ้างงานในโครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด – 19 หลังเสร็จสิ้นโครงการในระยะที่ 1 ณ โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (บ้านบ่อหวี) หมู่ที่ 4 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทานพื้นที่ฟาร์มตัวอย่างให้ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.) ร่วมกับกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินกิจกรรมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ตาม “โครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด – 19” โดยกล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ (6 ส.ค.63) เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้เข้าร่วมโครงการภายหลังเสร็จสิ้นโครงการในระยะที่ 1 ที่กระทรวงแรงงานรับผิดชอบในการจ้างงานว่าผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละคนได้นำความรู้ผลที่ได้รับจากวิทยากรที่ไดสอนด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ไปต่อยอดในการประกอบอาชีพที่บ้านของตนเอง ครอบครัว และขยายผลในชุมชนอย่างไรบ้าง
นางเธียรรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมของโครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด -19 ทั่วประเทศศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.) ร่วมกับกระทรวงแรงงาน จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ตาม “โครงการฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด – 19”เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนรายได้ของประชาชนช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid -19) โดยมีการจ้างงานปรับปรุงพื้นที่ ขุดลอกคูคลอง การปลูกผัก ทำปุ๋ย เพื่อทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ในพื้นที่ 17 จังหวัด 30 ฟาร์มตัวอย่าง ระยะเวลา 60 วัน ภายใต้งบประมาณ 19.8 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 1,101 คน ในส่วนของจังหวัดราชบุรีมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ในระยะที่ 2 จำนวน 47 คน ในจำนวนนี้เคยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ในระยะที่ 1 มาแล้วจำนวน 32 คน
สายบัว บุญกล้า หรือ บัว อายุ 35 ปี เดิมมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 เลยได้มาสมัครเข้าร่วมโครงการฟาร์มตัวอย่างมาตั้งแต่ระยะแรก และสมัครต่อในระยะที่ 2 ซึ่งได้รับความรู้ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ มีวิทยากรมาสอนตั้งแต่การปรับปรุงดิน การปลูกผักสวนครัวโดยไม่ใช้สารเคมี ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของตัวเราเองและสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ ยังได้ทำกินเองในครอบครัว ลดรายจ่าย ซึ่งเมื่อมาทำด้วยตนเอง รู้สึกว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด อยากขอบคุณแม่หลวงของแผ่นดิน ที่ให้โอกาสชาวบ้านได้มีความรู้ มีรายได้ นำไปประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน
ลัดดาวัล ทุ้บะ หรือ วัล อายุ 45 ปี เดิมเคยทำงานเป็นแม่บ้านรีสอร์ท จากผลกระทบโควิด-19 จึงสมัครเข้าร่วมโครงการฟาร์มตัวอย่างตั้งแต่ระยะที่ 1 และต่อในระยะที่ 2 และคิดว่าจะต่อในระยะที่ 3 อนาคตคิดว่าจะนำความรู้ไปต่อยอดในการรวมกลุ่มในชุมชนทำเค้กกล้วยหอม เพราะที่ฟาร์มได้สอนให้ทำกล้วยม้วน เค้กกล้วยน้ำว้า ทำน้ำยาอเนกประสงค์ และสบู่ที่จากสมุนไพร
อำไพ ทรงกฤษณ์ หรือ น้ำ อายุ 33 ปี เดิมเคยเป็นลูกจ้างโฮมสเตย์ และทำสวนผลไม้มาก่อน จากพิษโควิด-19 ได้มาสมัครเข้าร่วมโครงการฟาร์ม ได้นำความรู้ไปทำต่อที่บ้านมีที่ดินอยู่เกือบไร่ คิดว่าจะกลับไปปลูกกล้วย ผักสวนครัว เช่น ข่า ตะไคร้ พริก มะเขือ ซึ่งปัจจุบันก็เลี้ยงไก่ชนอยู่แล้ว และจะเลี้ยงไก่ไข่เพิ่มเติม เพราะได้สั่งพันธุ์ไก่ไข่จากกรมปศุสัตว์แล้ว รู้สึกดีใจที่ได้มาทำงานที่ฟาร์ม ขอบคุณแม่หลวงของแผ่นดินที่ทำให้มีโครงการดีๆ ช่วยส่งเสริมอาชีพ ให้ชาวบ้านมีงานทำ มีกินมีใช้
“กระทรวงแรงงาน สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีพระราชทานพื้นที่ในฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากจะได้งานทำ มีอาชีพ ลดรายจ่าย มีรายได้แล้วสามารถนำความรู้ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ไปต่อยอดในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวต่อไป” นางเธียรรัตน์ กล่าวในท้ายสุด