3 ส.ค.2563 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 864/2563 เรื่อง มาตรกรคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณชายหาด
เนื้อหา 8 ข้อ สาระสำคัญ ห้าม สูบบุหรี่หรือทิ้งก้นบุหรี่ บริเวณชายหาด เว้นแต่เป็นการสูบบุหรี่หรือทิ้งก้นบุหรี่ในบริเวณพื้นที่หรือในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานราชการได้จัดไว้, เท ทิ้ง ระบายของเสีย ขยะมูลฝอย หรือวัสดุที่มีลักษณะเป็นพลาสติก โฟม ของเสียกระดาษ เศษอาหาร หรือผ้า น้ำเสีย สิ่งปฏิกูล สารแขวนลอย คราบน้ำมัน สารปนเปื้อน มูลสัตว์ ซากสัตว์ มลภาวะ หรือสิ่งต่าง ๆ เว้นแต่ได้ดำเนินการ เท ทิ้ง หรือระบายในบริเวณพื้นที่ หรือในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานราชการได้จัดไว้เพื่อการนั้น หรือได้ดำเนินการตามกระบวนการหรือมาตรฐานที่ทางราชการกำหนด ,กระทำการใด ๆ อันส่งผลหรืออาจส่งผลให้ชายหำดได้รับความเสียหาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้มีผลบังคับใช้นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยให้มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลาสองปี
คำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 864/2563
เรื่อง มาตรกรคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณชายหาด
ในท้องที่ชายหาดบานชื่น อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
ท้องที่ชายหดแหลมเสด็จ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
ท้องที่ชายหาดแสงจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
ท้องที่ชายหาดบางแสน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
ท้องที่ชายหาดถ้ำพัง อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
ท้องที่ชายหาดทรายแก้ว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ท้องที่ชำยหาดดงตาล พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ท้องที่ชายหาดชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
ท้องที่ชายหาดหัวหิน ชายหาดเขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ท้องที่ชายหาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
ท้องที่ชายหาดบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุรำษฎร์ธานี
ท้องที่ชายหาดโฉลกบ้านเก่า เกาะเต่ำ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ท้องที่ชายหาดปลายทราย อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ท้องที่ชายหาดชลาทัศน์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
ท้องที่ชายหาดวาสุกรี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
ท้องที่ชายหาดป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต
ท้องที่ชายหาดเกาะไข่นอก ชายหาดเกาะไข่ใน อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา
ท้องที่ชายหาดเขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
ท้องที่ชายหาดพระแอะ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
ท้องที่ชายหาดคลองดาว ชายหาดคอกวาง อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
ท้องที่ชายหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง
โดยที่เป็นการสมควร เพื่อเป็นการคุ้มครอง สงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู บริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณชายหาด ตามแนวชายฝั่งทะเล และพื้นที่ทางทะเลโดยรอบมิให้ได้รับความเสียหายหรือได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จากการสูบบุหรี่และการทิงก้นบุหรี่ ขยะมูลฝอยต่าง ๆหรือการกระทำใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการทำลาย หรือทำให้เกิดอันตราย ต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศ รวมทั้งก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชุมชนหรือประชาชนบริเวณชายหาดหากปล่อยให้เนิ่นช้าทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นยากที่จะฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ได้
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 ประกอบมาตรา 17 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณชายหาดเพื่อระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงบริเวณท้องที่ชายหาด ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในคำสั่งนี้
“แนวชายฝั่งทะเล” หมายความว่า แนวที่นำทะเลขึ้นสูงสุดตามปกติของธรรมชาติ
“ชายหาด” หมายความว่าพื้นที่ในแนวที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุดตามปกติทางธรรมชาติจนถึงแนวที่น้ำทะเลลงต่ำสุดตามปกติทางธรรมชาติ และให้หมายความรวมถึงบริเวณพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่หาดทรายหรือพื้นที่ซึ่งอยู่ติดกับชายหด ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่สงวนไว้ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ข้อ 2 ห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใด กระทำกรอย่างหนึ่งอย่างใด ในบริเวณชายหาดตามแนวชายฝั่งทะเล ดังต่อไปนี้
(1) สูบบุหรี่หรือทิ้งก้นบุหรี่ บริเวณชายหาด เว้นแต่เป็นการสูบบุหรี่หรือทิ งก้นบุหรี่ในบริเวณพื้นที่หรือในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานราชการได้จัดไว้
(2) เท ทิ้ง ระบายของเสีย ขยะมูลฝอย หรือวัสดุที่มีลักษณะเป็นพลาสติก โฟม ของเสียกระดาษ เศษอาหาร หรือผ้า น้ำเสีย สิ่งปฏิกูล สารแขวนลอย คราบน้ำมัน สารปนเปื้อน มูลสัตว์ ซากสัตว์ มลภาวะ หรือสิ่งต่าง ๆ เว้นแต่ได้ดำเนินการ เท ทิ้ง หรือระบายในบริเวณพื้นที่ หรือในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานราชการได้จัดไว้เพื่อการนั้น หรือได้ดำเนินการตามกระบวนการหรือมาตรฐานที่ทางราชการกำหนด
(3) กระทำการใด ๆ อันส่งผลหรืออาจส่งผลให้ชายหำดได้รับความเสียหาย
ข้อ 7 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558
ข้อ 8 คำสั่งนี้ ให้มีผลบังคับใช้นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยให้มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลาสองปี
สั่ง ณ วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563