กรมเจ้าท่าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสื่อมติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 เสนอข่าว “ส่อร้าง! สร้างเขื่อนหินทับสะแกทิ้ง 60 ล้าน หลังอดีตผู้สมัคร สส. เพื่อไทย แฉผู้รับเหมาเมินงาน”
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2560 จท. ได้ว่าจ้างบริษัท ฤดีประยงค์ จำกัด ดำเนินงานจ้างเหมาก่อสร้างกำแพงหินทิ้งป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณบ้านทุ่งประดู่ หมู่ที่ 2 ตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามสัญญาเลขที่ 60/2560/สกม. ลงวันที่ 30 มกราคม 2560 และบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ด้วยวงเงินงบประมาณจำนวน 62,750,000 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 โดยกำแพงหินทิ้งมีความยาวทั้งสิ้น 1,175 เมตร ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาตามสัญญาจ้าง ปรากฏว่าผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างกำแพงหินทิ้งให้แล้วเสร็จได้ โดยก่อสร้างได้ความยาวเพียง 401 เมตร จท. ได้คิดค่าปรับตามสัญญาจ้าง โดยมีค่าปรับเกินร้อยละ 10 ของวงเงินค่าจ้าง จึงได้พิจารณาถึงความพร้อมของบุคลากรและเครื่องมือ เครื่องจักรต่าง ๆ ของผู้รับจ้าง ปรากฏว่าไม่มีความพร้อมในการดำเนินงานส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จ เนื่องจากผู้จัดการโครงการได้ขอถอนตัว และขนย้ายเครื่องมือ เครื่องจักรออกจากโครงการ รวมทั้งยกเลิกการเช่าสำนักงานโครงการ จท. จึงดำเนินการบอกเลิกสัญญา โดยมีหนังสือที่ คค 0325/1124 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2562 แจ้งบอกกล่าวกับผู้รับจ้างตามระเบียบที่กำหนด และดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ภายหลังบอกเลิกสัญญา จท. ได้จัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ เพื่อดำเนินการก่อสร้างงานส่วนที่เหลือ แต่ไม่สามารถนำงบประมาณที่เหลือจากโครงการ มาใช้เป็นค่าจ้างแก่ผู้รับจ้างรายใหม่ได้ตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง จท. จึงได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2564 - 2565 เพื่อดำเนินการก่อสร้างกำแพงหินทิ้งในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผูกพันสัญญาก่อสร้างใหม่ได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2563
ทั้งนี้ จท. ได้ดำเนินการสืบราคาหินใหญ่สำหรับก่อสร้างกำแพงหินทิ้งจากโรงโม่หินที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ก่อสร้าง พร้อมทั้งได้จัดทำราคาค่าก่อสร้างใหม่ที่มีความเหมาะสมตามหลักเกณฑ์ของทางราชการแล้ว