นายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคดีทุจริตโครงการขุดลอกคลอง วงเงินแห่งละ 5 แสนบาท จำนวนนับร้อยโครงการ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.นครราชสีมา ได้ออกหนังสือเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินงานโครงการขุดคลอง จำนวน 11 สัญญา วงเงิน 5.5. ล้านบาท ที่ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบว่า ไม่ได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่จริง แต่มีการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าไปหมดแล้ว มาให้ปากคำในสัปดาห์หน้านี้ ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ รวมถึงเอกชน จากนั้นจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม คาดว่าจะมีการสรุปผลการตรวจสอบข้อมูลส่วนนี้ได้เป็นทางการ ในช่วงเดือน ก.ย.2559 นี้ส่วนการตรวจสอบข้อมูลส่วนอื่น ก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอน อาทิ ผลการดำเนินงานโครงการในพื้นที่อื่น รวมถึงการตั้งเรื่องอนุมัติงบประมาณของสภาฯ อบจ.โคราช ที่นำมาใช้ในการดำเนินงานโครงการนี้ด้วย
"ผมขอยืนยันว่า ป.ป.ช.โคราช ยังคงติดตามตรวจสอบคดีนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคมโคราช นอกจากนี้ ยังได้รับการประสานเป็นทางการภายใน จากผู้ใหญ่ในป.ป.ช.ว่า ต้องการให้ผลการตรวจสอบโครงการนี้ ได้ข้อยุติโดยเร็ว" นายมงคล กล่าว
ผอ.ป.ป.ช.นครราชสีมา ยังอธิบายว่า สำหรับแผนงานในการตรวจสอบคดีนี้ ของ ป.ป.ช. นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1. การทุจริตในขั้นตอนการดำเนินงานโครงการ ตามข้อมูลที่มีการร้องเรียนเข้ามา คือ ในการแบ่งซอยการดำเนินงานออกเป็นโครงการย่อยๆ ตั้งงบประมาณแห่งละ 5 แสนบาท กระจายในพื้นที่ต่างๆ และมีกลุ่มบุคคลเข้ามาแสวงหารับประโยชน์ ซึ่งขณะนี้ปรากฎข้อมูลชัดเจน ในจำนวน 11 สัญญา ว่า ผู้รับเหมาไม่ได้เข้ามาดำเนินการจริง แต่มีการเบิกจ่ายเงินไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ช.ได้รับข้อมูลเอกสารหลักฐานจาก สตง.ที่อายัดไว้มาหมดแล้ว และหากผลการตรวจสอบปรากฎข้อเท็จจริงเป็นไปตามนี้ จะถือเป็นความผิดอย่างแน่นอน เพราะเคยมีโครงการอื่นที่ดำเนินการลักษณะนี้และถูกตัดสินว่ามีความผิดเป็นแบบอย่างอยู่
2. การตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานโครงการในพื้นที่อื่น รวมถึงการอนุมัติงบประมาณของสภาฯ อบจ.โคราช ในการดำเนินงานโครงการนี้ จากแหล่งเงินส่วนต่างๆ ซึ่งมีการร้องเรียนเข้ามาด้วย แต่น่าจะใช้เวลาอีกระยะ เพราะมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากนับร้อยคน
"กระบวนการทำงานของ ป.ป.ช. โคราช มีลักษณะมุ่งเน้นการแสวงหาข้อเท็จจริงเป็นหลัก ทั้งเอกสารหลักฐาน พยานบุคคล เมื่อได้รับข้อมูลครบถ้วน หากพบว่ามีมูลความจริง จะมีการตั้งเรื่องเสนอให้ ป.ป.ช. ส่วนกลาง พิจารณารับเรื่องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนเป็นทางการต่อไป ซึ่งขอยืนยันว่าในขั้นตอนการดำเนินงาน จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด" ผอ.ป.ป.ช.นครราชสีมา กล่าวทิ้งท้าย