รมว.ท่องเที่ยวฯ เผย นายกฯ อนุมัติ 1 ต.ค. เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัด นำร่องใช้ ‘ภูเก็ตโมเดล’ ซีลพื้นที่ ขณะที่นายกฯ สั่งสำรวจและทำให้ครบ 6 ภูมิภาค
20 ส.ค. 2563 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “พลิกฟื้นท่องเที่ยว สายเลือดหลักเศรษฐกิจ” ในงานสัมมนา “SMEs New Normal” ไปต่อแบบไหน…ถึงจะรอด? จัดโดยนิตยสารเส้นทางเศรษฐี โดยตอนหนึ่งนายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ.ครั้งแรก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมเป็นประธานเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ในที่ประชุมศบศ.ได้มีการตกลงพูดคุยเรื่องการเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทย โดยใช้ จ.ภูเก็ต เป็นโมเดลแรก
“ผมพูดตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนว่า ยังไงๆ ผมพยายามที่จะขอเอานักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเราให้ได้ ไม่เดือนกันยายนก็อย่างช้าเดือนตุลาคม ต้องเอาให้ได้ ซึ่งเมื่อวานนี้มีการประชุมใน ศบศ.แล้ว ซึ่งผมขออนุมัติในที่ประชุมว่า ขอเอาวันที่ 1 ให้ทางท่านนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติให้สามารถมีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ และผมขอเอาจังหวัดภูเก็ตเป็นภูเก็ตโมเดล เราจะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาสู่ประเทศไทยให้เขาอยู่ในสถานที่จำกัดที่ทางรัฐบาลจัดให้ 14 วันเป็นอย่างน้อย ก็มีการตกลงกัน มีการคุยกันจบใน ศบศ.” รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าว
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ ได้อธิบาย ‘ภูเก็ตโมเดล’ ว่า จะเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ (New Normal) ที่กำหนดพื้นที่ให้ท่องเที่ยวแบบจำกัด สมมุติเป็นหาดป่าตองสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียง จะปิดพื้นที่ในรัศมี 1 กิโลเมตร ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปอยู่เป็นเวลา 14 วัน เมื่ออยู่ครบจะมีการตรวจเชื้อโควิด-19 (swab test หรือการตรวจสวอป) ถ้าผลไม่พบเชื้อนักท่องเที่ยวคนนั้นจะสามารถออกจากพื้นที่จำกัดท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นภายในจังหวัดภูเก็ตได้ แต่หากต้องการจะเดินทางไปเที่ยวจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย ต้องอยู่ในสถานที่จำกัดอีก 7 วันรวมเป็น 21 วัน และจะมีการตรวจสวอปอีกครั้ง ก่อนอนุญาตให้ออกไปท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ได้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องตรวจสวอป 3 ครั้ง ถ้าต้องการไปจังหวัดอื่นนอกจากภูเก็ต แต่ถ้าอยู่ท่องเที่ยวเฉพาะในภูเก็ตก็จะตรวจ 2 ครั้ง
รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวด้วยว่า นอกจากนักท่องเที่ยวต้องอยู่ในพื้นที่จำกัดแล้ว เจ้าหน้าที่โรงแรม เจ้าหน้าที่ร้านอาหารทุกคนต้องห้ามออกนอกพื้นที่ตลอดเวลาที่อยู่กับนักท่องเที่ยวและเข้าตรวจสวอปเช่นเพื่อสร้างความมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นายกฯ ยังมองการณ์ไกลได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไปคิดมาว่า จะทำอย่างไรให้ได้เหมือนภูเก็ตโมเดลทั้ง 6 ภูมิภาค หรือ 6 จังหวัดเมืองหลัก เช่น ภาคเหนืออาจเป็นเชียงใหม่ เชียงราย, ภาคอีสาน จ.อุบลราชธานี หรืออุดรธานี, ภาคตะวันออก จ.จันทบุรี ระยอง, ภาคตะวันตก จ.ราชบุรี กาญจนบุรี, ภาคใต้ มีภูเก็ตโมเดลแล้ว อาจเป็นกระบี่ หรือสุราษฎร์ธานี และภาคกลางที่กทม. ซึ่งทั้งนี้มองว่า ต้องทำที่ภูเก็ตโมเดลก่อนเพื่อประชาสัมพันธ์ และสิ่งสำคัญต้องถามประชาชนในพื้นที่ว่า พอใจยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวหรือไม่ ถ้าคนในพื้นที่ไม่รับจะไม่นำนักท่องเที่ยวไปเด็ดขาด
โดยวันที่ 5-6 กันยายน จะลงพื้นที่ภูเก็ตร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ช่วยกันสำรวจพื้นที่ภูเก็ตว่า จะสามารถทำเป็นโมเดลนำร่องได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยังเป็นห่วงว่า นักท่องเที่ยวที่อยู่ในระหว่างกักตัวอาจลักลอบหนีไปเกาะอื่นหรือจังหวัดอื่นทางเรือที่สามารถทำได้ง่าย ตรงนี้เป็นจุดที่ต้องป้องกัน พร้อมหารือร่วมกันว่าจะควบคุมอย่างไร และต้องทำความตกลงกับนักท่องเที่ยวด้วย