นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ให้สัมภาษณ์ว่า องค์การเภสัชกรรมได้มีโครงการผลิตหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95 สำหรับใช้งานด้านการแพทย์ทั่วไปในหน่วยฉุกเฉิน ทันตกรรม การรักษาแผลขนาดเล็กหรือการรักษาที่อาจมีการสัมผัสเลือดเล็กน้อย และใช้ป้องกันอนุภาคปนเปื้อนชนิดต่างๆ ที่อยู่ในอากาศ อย่างละ 1 สายการผลิต โดยจัดตั้งขึ้นบนพื้นที่ ขนาด 375 ตารางเมตร อาคารฝ่ายเภสัชเคมีภัณฑ์ องค์การเภสัชกรรม คลอง 10 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี สามารถผลิตหน้ากากอนามัยออกสู่ตลาดได้ภายในเดือนตุลาคม 2563 และแผนผลิตหน้ากาก N95 ได้ประมาณเดือนมกราคม 2564 ตั้งเป้าผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จำนวนประมาณ 15 ล้านชิ้นต่อปี หน้ากาก N95 ทางการแพทย์ จำนวนประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อปี โดยหน้ากากอนามัยทั้ง 2 ชนิด ผลิตตามมาตรฐานที่ มอก.กำหนด
ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า โครงการผลิตหน้ากากอนามัยนี้จัดตั้งขึ้นจากนโยบายเร่งด่วนของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการสร้างความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองของประเทศจากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด 19 ทั่วโลก รองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดการระบาดในระลอก 2 ซึ่งจะทำให้ปริมาณความต้องการใช้หน้ากากอนามัยและหน้ากาก N95 สูงขึ้นมาก อาจเกิดการขาดแคลน และจะเป็นกลไกในการรักษาระดับราคาหน้ากากอนามัยหลังจากมีการปลดล็อคการควบคุมราคาแล้ว เพื่อให้ประชาชนมีผลิตภัณฑ์ใช้อย่างเพียงพอ สามารถเข้าถึงได้ ในราคายุติธรรม