นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหาทางเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังการประชุม นายวิษณุแถลงว่า การประชุมเพื่อพิจารณาเยียวยาช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัยอันเกิดจากการวางระเบิดและการวางเพลิงเผาทรัพย์ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 37 ราย เป็นคนไทย 26 ราย ต่างชาติ 11 ราย ประกอบด้วยเยอรมัน อิตาลี เนอร์เธอร์แลนด์ และออสเตรเลีย เดินทางกลับประเทศแล้ว 10 ราย และยังพักรักษาตัวอยู่ 1 ราย เบื้องต้นหลายหน่วยงานได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือและเยียวยาไปบ้างแล้ว
นายวิษณุกล่าวว่า ทั้งนี้ การเยียวยาได้ข้อยุติว่ากรณีผู้เสียชีวิตแต่ละรายจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐที่ไม่เกี่ยวเงินประกันอื่นๆ จะได้รับเงินทั้งสิ้นรายละ 1,180,000 บาท เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับการเยียวยาเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ที่เหตุครั้งนั้นได้มีการยกระดับการเยียวยามากกว่าปกติแล้วหนึ่งครั้ง โดยการเยียวยาครั้งนี้ใช้หลักการเยียวยาราชประสงค์เป็นตัวตั้งที่ได้มีการยกระดับบางอย่างเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่รวมแล้วครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับการเยียวยาอยู่ในวงเงิน 1,180,000 บาท ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บความช่วยเหลือจะเป็นไปตามระดับความรุนแรง ทั้งในส่วนของการรักษาพยาบาลที่ให้มีการเบิกจ่ายตามสิทธิ์ ส่วนที่เกินมารัฐดูแลให้หมด โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ จะใช้งบประมาณที่รัฐได้ตั้งเอาไว้ตั้งแต่เกิดเหตุราชประสงค์ รวมถึงได้รับค่าขาดไร้อาชีพ ไร้การงาน เงินทำขวัญ ที่ถือเป็นการเยียวยาไม่มีใบเสร็จอีกจำนวนหนึ่ง เงินส่วนนี้จะเป็นเงินจากกองทุนต่างๆ เช่น จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม และเงินที่จะได้ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย โดยแต่ละคนจะได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งชาวต่างชาติจะได้รับในเกณฑ์เดียวกัน แต่อาจได้รับเพิ่มในเรื่องค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายในส่วนของญาติที่เดินทางมาดูแล ส่วนนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นคนดูแล
นายวิษณุกล่าวว่า นอกจากนี้จะมีการดูแลเรื่องความเสียหายที่อยู่อาศัยและทรัพย์สิน ซึ่งหลักเกณฑ์นี้เคยใช้ในการชุมนุมสาธารณะ แต่ไม่ได้ใช้ในเหตุการณ์ราชประสงค์ จะอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทย โดยถ้าเป็นเคหสถานหรือที่อยู่อาศัย ยกเว้นหาบเร่แผงลอย โดยส่วนนี้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ สั่งจ่ายได้จากกองทุนของกระทรวงมหาดไทย แต่ถ้ามีปัญหาให้แจ้งมายังสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนที่เป็นห้างร้านหรือตลาด ที่มีค่าเสียหายจำนวนมาก ส่วนใหญ่มีประกัน แต่ถ้าไม่มีเงินประกันและถูกตีว่าเป็นที่อยู่อาศัยจะมีวิธีการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ที่อยู่อาศัย โดยให้เป็นดุลพินิจผู้ว่าฯ พิจารณา