ที่อาคารัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ในช่วงบ่าย มีวาระการพิจารณางบประมาณการซื้อเรือดำน้ำ ลำที่ 2-3 วงเงิน 22,500 ล้านบาท ของกองทัพเรือ
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 กล่าวว่า กมธ.ชุดใหญ่ คงต้องเลื่อนการพิจารณาไป 2-3 วัน เพราะ กมธ.ชุดใหญ่ต้องให้กองทัพเรือชี้แจงว่าขั้นตอนต่างๆ ว่าขั้นตอนการจัดซื้อเรือดำน้ำได้ไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว เนื่องจากกรณีดังกล่าวทางกองทัพเรือได้การอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2563 จากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตราเป็นกฎหมายไปแล้ว
นายสันติกล่าวด้วยว่า ถ้าไม่ดำเนินการจะขัดกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร ส่วนกระแสสังคม กมธ.คณะใหญ่น้อมรับความห่วงใยต้องให้ทุกภาคส่วนคุยกัน คาดว่าใช้เวลา 2-3 วัน เพราะ กมธ.หลายคนมองว่าจำเป็น เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านก็มีเรือดำน้ำ เช่นอินโดนีเซีย แม้แต่เมียนมา เขามีแล้ว 1 ลำกำลังสั่งต่อ 4 ลำ ดังนั้น กมธ.ทุกคนเห็นด้วยประธาน กมธ.งบฯ กล่าวอีกว่า ส่วนการยกเลิกการซื้อเรือดำน้ำนั้นเป็นไปไม่ได้เพราะการซื้อเรือดำน้ำ ผ่าน ครม.แล้ว และสภาอนุมัติให้ไปดำเนินการ ให้ทั้งเงินและอำนาจกองทัพเรือไปดำเนินการ ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ มีมติว่าจะไม่อนุมัติให้ซื้อเรือดำน้ำ และจะลงมติคว่ำงบประมาณดังกล่าว ไม่คว่ำหรอก เป็นเรื่องความจำเป็นของบ้านเมืองต้องอยู่บนเหตุบนผล