นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยว่า MEA ในฐานะหน่วยงานที่ดูระบบจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้า มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร มีการเตรียมความพร้อมพัฒนาระบบจำหน่าย และให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ฝ่ายวางแผนระบบไฟฟ้า MEA ได้ริเริ่มนำหม้อแปลงจำหน่ายประสิทธิภาพสูงมาใช้งาน ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดค่าพลังงานสูญเสียในระบบ และสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตอบโจทย์การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีราคาสูงกว่าหม้อแปลงชนิดเดิม 10% อย่างไรก็ดี หม้อแปลงชนิดนี้สามารถลดค่าความสูญเสียขณะที่ไม่มีโหลด (no load loss) 55% – 60% เมื่อเปรียบเทียบกับหม้อแปลงชนิดแกนเหล็กซิลิกอนที่ใช้อยู่ปัจจุบัน
ทั้งนี้ MEA ได้นำร่องจัดซื้อหม้อแปลงจำหน่าย 3 เฟส ประสิทธิภาพสูงชนิดแกนเหล็กอะมอร์ฟัส (หม้อแปลงสีเขียว) แรงดัน 24 กิโลโวลต์ (kV) 500 กิโลโวลต์แอมแปร์ (kVA) จำนวน 50 ชุด เพื่อนำมาใช้ในจุดติดตั้งใหม่และทดแทนหม้อแปลงเดิมที่เสื่อมสภาพพร้อมติดตามทดสอบประเมินผลการใช้งานในการปรับปรุงระบบการจ่ายไฟฟ้าในระบบของ MEA โดยหม้อแปลงชนิดแกนเหล็กอะมอร์ฟัสจำนวน 50 ชุดนี้ สามารถลดค่าพลังงานสูญเสียขณะที่ไม่มีโหลดที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงลงได้ปีละ 179,580 หน่วย ซึ่งสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 80,631.42 กิโลกรัม โดยเริ่มติดตั้งในพื้นที่จำหน่ายของ MEA และริเริ่มติดตั้งในเขตบางเขน เขตนนทบุรี เขตนวลจันทร์ เขตบางกะปิ เขตธนบุรี และอนาคตพิจารณานำมาใช้ในพื้นที่บริการอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งการพัฒนาคุณภาพระบบไฟฟ้าดังกล่าวจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นคงในการจ่ายไฟฟ้า พร้อมรักษาสิ่งแวดล้อมเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของคนเมืองมหานครอย่างยั่งยืน