นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลไทยได้ทราบว่ามีแรงงานชายชาวไทย อายุ 55 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.อุดรธานี ประสบอุบัติเหตุ กระดูกสันหลังได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งได้รับการรักษาและทำกายภาพบำบัดต่อเนื่องอยู่ที่ไต้หวัน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 มีความต้องการเดินทางกลับประเทศเพื่อมารักษาต่อ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศประสานงานเพื่อรับคนไทยรายนี้กลับประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งคนไทยเมื่อประสบเหตุหรือปัญหาในต่างแดนเราจะไม่ทิ้งกัน จึงได้ติดต่อไปยังแพทย์ผู้ให้การรักษาซึ่งลงความเห็นว่าสามารถดินทางได้ โดยต้องมีพยาบาลดูแลตลอดการเดินทางเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต โดยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 เวลา 13.50 น. ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทางถึงประเทศไทย โดยมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ    รับตัวจากสนามบินส่งไปที่โรงพยาบาลทันทีเพื่อการดูแลรักษาต่อเนื่อง และการเฝ้าระวังโรคโควิด 19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ตามเกณฑ์ที่กำหนด

          “ผมในนามของกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายผู้แทนนำดอกไม้ไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วย อาการตอนนี้ไม่เป็นที่น่ากังวล สัญญาณชีพปกติ และได้รับการดูแลต่อเนื่องตามแผนการรักษา ส่วนพยาบาลที่เดินทางมาด้วยนั้น ขณะนี้ได้เดินทางกลับไต้หวันแล้ว เนื่องจากไม่ได้ออกจากที่พักรอในสนามบินใช้เวลาอยู่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ไม่ได้อยู่ปะปนกับผู้อื่น และไม่ต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นกรณีพิเศษ เป็นการติดตามส่งต่อผู้ป่วยตามหลักสิทธิมนุษยธรรมและความปลอดภัยของชีวิตผู้ป่วยเท่านั้น” นายอนุทิน กล่าว