นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 48/2563 เมื่อเร็วๆนี้ โดยประเด็นสำคัญในการพิจารณา คือ การเตรียมรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาภูเก็ต
นายณรงค์ กล่าวว่า ภูเก็ตพึ่งพิงการท่องเที่ยวเป็นหลักกว่า 90% เป็นคนต่างชาติ 10 ล้านคน คนไทย 4 ล้านคน รวม 14 ล้านคนต่อปี รายได้ปีละกว่า 4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้รายได้จากคนไทยกว่าหมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นรายได้จากคนต่างชาติ ตอนนี้เมื่อนักท่องเที่ยวไม่เข้ามา จึงขาดรายได้การท่องเที่ยว คนตกงาน คนลำบากแสนสาหัส
แม้จะมีนโยบายเปิดจังหวัด แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ การกระจายตัวของรายได้ อาจจจะต้องใช้เวลา 1-6 เดือนจึงจกระจายถึงกลุ่มกลาง-ล่าง
กระบวนการป้องกันการแพร่กระจายโรคติดเชื้อโควิด-19 จะสำคัญมากในภาวะวิกฤต หลังจากนี้ ระบบจะต้องแข็งแรงทั้งในจังหวัด นอกจังหวัด และประเทศการเปิดรับนักท่องเที่ยว
ต้องยอมรับว่า ธุรกิจบางประเภทของภูเก็ตจะได้รับผลกระทบแทนเช่น ค้าปลีกที่มีธุรกรรมข้ามจังหวัด เป็นต้น
ประเด็นที่อ่อนไหว คือ มิติการรับรู้เรื่องโควิด-19 ที่ผ่านมาของสังคมไทยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสวนทางกันโดยสิ้นเชิง สถานการณ์ตอนนี้ส่วนหนึ่งต้องการให้เปิด อีกส่วนกังวลการระบาด ต้องไม่มีการระบาดรอบสองจังหวัดภูเก็ต
ไดักำหนดวิสัยทัศน์ ของแผนปฏิบัติการฟื้นฟูเศรษฐกิจ-สังคมของภูเก็ต หลังโควิด-19 คือ เศรษฐกิจภูเก็ต ได้รับการฟื้นฟู โดยไม่มีการติดเชื้อแพร่ระบาดของโควิด-19 เป้าประสงค์ เศรษฐกิจฟื้นฟู ร่วมกับพัฒนาระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับการท่องเที่ยวของจังหวัด ต้องไม่มีการพบเชื้อในมาตรการ Phuket 5T &Phuket Thailand Long stay
กรณีที่มีการพบเชื้อต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที การมีระบบสาธารณสุขที่ดีสามารถรองรับขีดจำกัดด้านการท่องเที่ยว ต้องเกิดการสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สุขภาพของจังหวัดภูเก็ต มีการเปลี่ยนจุดยืนเปลี่ยนพฤติกรรม การแบ่งปันน้ำใจ” นายณรงค์ กล่าวและว่า
รัฐบาลประกาศให้วันที่ 1 ตุลาคม นี้เริ่มให้ภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ทางจังหวัดต้องเตรียมความพร้อมทั้งหมดทุกระบบขั้นตอนในมาตรการ Phuket 5 T ประกอบด้วย
T:Target ,T:Testing, T:Tracing , T:Treatment ,T:Trust ต้องมีการเลือกกลุ่มประเทศเป้าหมาย เน้นกลุ่มลองสเตย์ การประสานงานเงื่อนไขการเดินทางระหว่างประเทศ ของประเทศต้นทาง เรื่องการตรวจเชื้อก่อนเดินทาง ระบบการรับนักท่องเที่ยวภายในท่าอากาศยาน ระบบขนส่งนักท่องเที่ยวไปยังโรงแรมที่เป็น ALSQ
การตรวจคัดกรองกรณีพบเชื้อ การรักษาและการสร้างแผนสาธารณสุขเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน การเผยแพร่ ระบบการให้บริการ ควบคุมการเก็บตัว 14วัน ในโรงแรมที่กำหนด การพัฒนาระบบสาธารณสุข 5T ระบบการติดตามตัวนักท่องเที่ยวรวมกับกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ ระบบควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวระหว่างเก็บตัว 14วัน อย่างรัดกุม การสื่อสารระดับจังหวัด เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมทำความเข้าใจสังคมทุกระดับ มอบโฆษกจังหวัด คือ ปลัดจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด
“การเปิดเมืองจะค่อยๆเปิดขึ้นมาต้องมีปัจจัยและเงื่อนไขของความสำเร็จ เช่น ความเข้าใจของสังคม ในทิศทางเดียวกัน ต้องมีงบในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ความร่วมมือส่วนราขการ การเข้าใจการดำเนินงานของภูเก็ต ความร่วมมือภาครัฐเอกชนทุกส่วนต้องประสานงานกันใกล้ชิด ” นายณรงค์ กล่าว
ทางด้าน นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเตรียมการรับคนมาจากต่างประเทศในมาตรการ 5T มีการแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินระดับจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ดำเนินการตรวจประเมิน มีหน่วยประเมินทุกระบบขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่สนามบินถึงโรงแรมที่กำหนด
ตอนนี้มีโรงแรมที่ขอสมัครเป็นสถานที่กักตัวระดับจังหวัด 62 แห่ง รวมห้องพัก 6,771 ห้อง แต่ผ่านการประเมินแล้ว 3 แห่ง คือ โรงแรมอนันตรา และโรมแรมตรีสรา แต่ให้ประกาศเปิดเผยชื่อเพียง 2 แห่ง อีกแห่งขอไม่ให้ประกาศแต่ขอร่วมในโครงการ
ทั้งนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเปิดรับโรงแรมที่สนใจเข้าร่วม แต่ต้องรับการตรวจการประเมินในเงื่อนไขที่กำหนดความพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยตามหลักศบค.
ทางด้าน นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่าแนวทางรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในเรื่องนี้ ชาวภูเก็ตให้ความสนใจมาก ทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหลายครั้งกับหลายภาคส่วน
” ที่สำคัญ จะทำทุกอย่างให้ปลอดภัย กระตุ้นเศรษฐกิจได้ ต้องปราศจากผู้ป่วยที่ระบาดเข้ามาไทย ความเสี่ยงที่เคยมีจุดที่แล้วต้องปรับให้เหมาะสม
ดังนั้น การแง้มประตูในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ภูเก็ตจะเป็นจังหวัดแรกให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่ศบค.กำหนดไว้ การเข้ามาต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนดรวมทั้งวีซ่าระยะยาวชัดเจน มีการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง หลังจากครบ 14 วันออกนอกโรงแรมที่กำหนดได้ต้องติดตามต่อเนื่องในการเข้ามาของเฟสแรกนี้ยังไม่อยากให้ออกนอกภูเก็ต
จากนั้นเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม เป็นเฟสเซฟตี้ทัวริสซึ่มเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องอยู่ในเงื่อนไขตามที่กำหนดเช่นกันมีการประเมินโรคโควิด-19 ต้องดูประเทศที่มีการระบาดไม่มากนักมีการกักตัวให้อยู่ในโรงแรมทำกิจกรรมในโรงแรมที่กำหนด ” นายแพทย์เฉลิมพงษ์ กล่าว และว่า
เฟสถัดไป ยังใช้ชื่อ เซฟตี้ทัวริสซึ่ม หลังตรวจโควิดเข้ามาแล้วมีให้เลือกแพคเกจเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่ปิดเช่นเกาะเฮ เกาะมะพร้าว เป็นต้นในการกักตัว14วัน เฟสนี้น่าจะเป็นต้นปีหน้า 2564
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 31 สิงหาคม นี้ จังหวัดภูเก็ต โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมร่วมกับ ศบค.ชุดเล็ก ในแนวทางการรับคนต่างประเทศ ซึ่ง ต้องรอมติผลการประชุมดังกล่าว ต่อไป