ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จำนวน 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ไปเป็น อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) แทนนายประลอง ดำรงค์ไทย ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้, นายอดิสร นุชดำรงค์ รองปลัด ทส.เป็น อธิบดีกรมป่าไม้, นายรัชดา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) เป็น รองปลัด ทส., นายสุรชัย อจลบุญ ผู้ตรวจราชการ ทส. เป็น อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และ นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ผู้ตรวจราชการ ทส.เป็น ปลัด ทส.
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวว่า การโยกย้าย นายอรรถพล อธิบดีกรมป่าไม้ ไปเป็น อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เป็นการโยกย้ายตามปกติ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง งานกรมควบคุมมลพิษเป็นงานท้าทาย ไม่ใช่ทำกันง่าย ๆ นายอรรถพลเป็นคนหนุ่ม มีฝีมือ ต้องมาทำหน้าที่เป็นนักรบมลพิษ มาจัดการสิ่งแวดล้อมให้สะอาด และต้องทำให้กรมใหญ่ขึ้น
"ที่สำคัญ ตำแหน่งคนที่เป็นอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ สุดท้ายก็ได้มาเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ เพราะอย่างผมก็เคยเป็นอธิบดีกรมควบคุมมลพิษมาก่อนแล้วถึงเป็นปลัด ทส. หรืออย่างนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัด ทส.ก่อนผม ก็เคยเป็นอธิบดีกรมควบคุมมลพิษมาก่อน ส่วนนายอดิสร ที่มาเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ ถือว่าเหมาะสม เพราะจบวนศาสตร์มาโดยตรง จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเยล สหรัฐ มีความรู้เรื่องป่าไม้ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ในกรมอุทยานฯมาก่อน ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ ก็ไม่มีอะไรนายสุรชัย อจลบุญ มาเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพราะเคยเป็นรองอธิบดีกรมนี้มาก่อน" นายจตุพร กล่าว
นายอดิสร จบวนศาสตร์ รุ่น 44 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนนายสุรชัย เป็นนักเรียนป่าไม้แพร่ รุ่น 29 ถือเป็นป่าไม้แพร่คนที่ 2 ที่ได้ขึ้นเป็นอธิบดีในกระทรวงทรัพยากรฯ ต่อจากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล
ด้าน นายอดิสร กล่าวว่า การได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่พิจารณา ก็จะตั้งใจทำงานให้เต็มที่ เพราะเหลืออายุราชการเพียง 1 ปี