นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) แถลงผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบศ.) ถึงมาตรการ “ชิมช้อปใช้” หรือ มาตรการกระตุ้นค่าใช้จ่ายรอบใหม่ เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน และกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยคลอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอย ประมาณ 80,000 ร้านค้า โดยเน้นสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ยกเว้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งรัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่าย 50 % และจำกัดการใช้จ่ายต่อคนตลอดโครงการเป็นระยะเวลา 3 เดือน จำนวน 3,000 บาท โดยจะใช้งบประมาณ 45,000 ล้านบาท จากพ.ร.ก.เงินกู้ฯ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย จำนวน 15 ล้านคน ที่ใช้จ่ายผ่านระบบแอปพลิเคชั่น “เป๋าตังค์” ของรัฐบาล และเบื้องต้นมีการกำหนดวงเงินในการใช้จ่ายแต่ละวัน 100-200 บาท
โดยคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 90,000 ล้านบาท ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายรอบใหม่นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยกลุ่มผู้ที่ได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และกลุ่มของผู้ประกอบการตัวเล็ก
ส่วนร้านสะดวกซื้อ อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรดเข้าร่วมโครงการได้ด้วยหรือไม่นั้น นายดนุชา กล่าวว่า ในที่ประชุมก็มีการหารือแต่เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งในการประชุมครั้งแต่ไป แต่ยืนยันว่าต้องการให้สิทธิ์ผู้ประกอบการรายเล็กมากกว่า
ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการคลังจัดทำรายละเอียดคุณสมบัติของร้านค้า และผู้ที่สามารถใช้สิทธิ์ในเข้าร่วมโครงการนี้ พร้อมนำเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า