ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
พิพากษาหมอเปรมศักดิ์ นายกฯบ้านไผ่ กักขัง2เดือน
09 ก.ย. 2563

ศาลฎีกาเปลี่ยนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จากจำคุกเป็นกักขัง นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีบ้านไผ่ จ.ขอนแก่นพร้อมพวก 2 เดือน กรณีถอดกางเกงนักข่าว ขณะที่ นักข่าวที่เป็นโจทย์ร่วมฟ้องหมอเปรมพอใจคำตัดสิน แต่ผิดคาดที่เปลี่ยนจากจำคุกเป็นกักขัง 2 เดือนวันที่9 กันยายน 2563 เวลา 08:40 น. นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ จำเลยที่1 และ ร้อยตรี บัวทอง โลขันธ์ จำเลยที่ 2 เดินทางมาถึงศาลจังหวัดพล ซึ่ง นพ.เปรมศักดิ์ เดินมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยวันนี้ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาในเวลา 09:00 น. ในคดีข่มขืนใจ บังคับขู่เข็ญ และกระทำอนาจาร ซึ่งศาลฎีกาได้เปลี่ยนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จากจำคุกจำเลยทั้ง2 เป็นกักขังคนละ 2 เดือน ซึ่งศาลมีดุลยพินิจว่าจำเลยสำนึกผิด โดยได้นำเงิน 1 แสนบาทมาวางต่อหน้าศาลเพื่อเยียวยาผู้เสียหาย อีกทั้ง จำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน

หลังฟังคำตัดสินของศาล ทนายของ นพ.เปรมศักดิ์ และร.ต.บัวทอง อยู่ระหว่างดำเนินการร้องขอเรื่องสถานที่กักขัง ซึ่งจะต่างจากการจำคุก ไม่ต้องเข้าเรือนจำ หรือแดนขังและสามารถเยี่ยมผู้ต้องขังได้วันละ 1 ครั้ง

นายปกาญ นพศรี ทนายความฝ่ายโจทย์ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ศาลฎีกาพิพากษา ต้องเคารพคำพิพากษาของศาลในจะก้าวล่วงไม่ได้ ซึ่งการกักขัง ขณะนี้ทางทนายฝั่งผู้ต้องหายื่นคำร้องเรื่องสถานที่กักขัง ส่วนการเปลี่ยนโทษจากจำคุก เป็นกักขังนั้น ศาลมองว่าจำเลยมีการเยียวยาโดยการวางเงินชดใช้ค่าเสียหายถือว่าจำเลยได้มีการสำนึกจึงได้ลดโทษให้จากจำคุกเป็นกักขังสำหรับการกักขังสถานที่กักขังประเทศไทยขณะยังไม่มีสถานที่กักขัง แต่ก็จะมีกรรมวิธีกักขังจะกักขังที่บ้านโดยใช้กำไล EM หรือติดตามตัวกำไลอิเล็กทรอนิกส์แล้วให้ไปกักตัวในสถานที่กำหนด

ส่วนนายปราโมทย์ ศรีบุระ ตัวแทนสื่อมวลชน เปิดเผยว่า การตัดสินคดีในวันนี้รอมา 3 ปีเศษ และเคารพในคำตัดสินของศาลฎีกา ซึ่งส่วนตัวถือว่าพอใจในคำตัดสินในระดับหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้คาดหวังว่าโทษน่าจะสูงกว่านั้น ซึ่งตลอด 3 ปีมีการพูดคุยกับสื่อทั้ง 5 คน ว่าการลดโทษหมอเปรมน่าจะเป็นการรอลงอาญาหรือว่าไม่รอลงอาญาเท่านั้น แต่วันนี้ศาลพิพากษามาแล้วคือเปลี่ยนจากจำคุกเป็นกักขัง ส่วนเงินสด 1 แสนบาท ที่ทางหมอเปรมพร้อมพวก นำมาเยียวยานั้นหมอเปรมนำเงินมาวางไว้ที่ศาล เพื่อแสดงเจตนาการเยียวยาสื่อมวลชนไม่ได้รับมาแต่อย่างใด เพื่อป้องกันคำครหาและให้เป็นคดีตัวอย่าง ที่สื่อมวลชนไม่ควรถูกคุกคาม

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่น ได้ติดตามทำข่าวกรณีมีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพนพ.เปรมศักดิ์ นั่งคู่กับหญิงสาวชั้น ม.5 คล้ายพิธีหมั้น หรือพิธีมงคลสมรสของชาวภาคอีสาน ผู้สื่อข่าวทั้งหมดจึงได้ขอพบและสัมภาษณ์นพ.เปรมศักดิ์ ภายในที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่สร้างความไม่พอใจให้ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นอย่างมาก ก่อนจะให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักเข้าไปภายในห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปกลับถูกนพ.เปรมศักดิ์ สั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เก็บโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายภาพ พร้อมล็อกตัวนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวอาวุโส 1 ใน 5 ผู้สื่อข่าวแก้ผ้าประจาน ต่อมาผู้สื่อข่าวเข้าแจ้งความเอาผิด นพ.เปรมศักดิ์ พร้อมพวก กระทั่งถูกศาลสั่งกักขังคนละ 2 เดือน

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...