นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง กฟผ. พร้อมเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่จะร่วมช่วยเหลือประชาชนภายใต้แนวคิด “พลังงานสร้างไทย กฟผ. สร้างพลังชุมชน” โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข็มแข็งให้ชุมชนผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนรอบเขตเขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชนจากการท่องเที่ยวและการจำหน่ายสินค้าชุมชน
ซึ่ง กฟผ. ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด และในปีนี้ กฟผ. จะจัดทริปนำร่องเส้นทางท่องเที่ยวใน 4 เส้นทาง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก, เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ ใน จ.กาญจนบุรี และโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา ควบคู่กับการจัดหาช่องทางจำหน่ายสินค้าชุมชนทั้งในส่วนของร้านค้าภายในเขตเขื่อน โรงไฟฟ้า การจัดตลาดนัดสินค้าชุมชนในพื้นที่ กฟผ. สำนักงานใหญ่ นำชุมชนร่วมจัดแสดงสินค้ากับเครือข่ายพันธมิตรในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงช่องทางออนไลน์ในกลุ่มบนเฟสบุ๊ก (Facebook) ที่มีชื่อว่า “ตลาดนัดเอนจี้ ของดีทั่วไทย” โดยมีจิตอาสา กฟผ. คอยดูแลช่วยเหลือชุมชนในการโพสต์สินค้าให้น่าสนใจ ช่องทางการจัดส่งสินค้า กฎหมายการค้าขายออนไลน์ จัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขาย ตลอดจนการจัดเวที EGAT Guru Talk “ขายไฟแลบ” สอนเทคนิคการเพิ่มยอดขายในตลาดออนไลน์แก่ชุมชนต่าง ๆ โดยกูรูผู้เชี่ยวชาญ
รวมถึงการจ้างแรงงานงานในพื้นที่และสร้างมูลค่าเพิ่มต่อชุมชนผ่านร้านกาแฟคุณสายชลที่ตั้งอยู่ในเขตเขื่อน โรงไฟฟ้า พร้อมทั้งนำเมล็ดกาแฟของชุมชนรอบ กฟผ. และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาจำหน่าย ซึ่งในวันนี้ยังเป็นวันแรกที่เปิดให้บริการร้านกาแฟคุณสายชล ณ กฟผ. สำนักงานใหญ่ อีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบโรงไฟฟ้าและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนผ่านช่องทางต่าง ๆ จะก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมของ “โครงการพลังงานสร้างไทย กฟผ. สร้างพลังชุมชน” ททท. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว จะร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ ฯ และกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้าน กฟผ. ก็มีฐานทรัพยากรที่ทรงคุณค่ามากมาย สามารถนำมาสร้างสรรค์และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม พร้อมยังสามารถกระจายประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นใกล้เคียงบริเวณเขื่อนและโรงไฟฟ้า เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น การนำสินค้าที่เป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านมาจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว จะช่วยให้ชุมชนได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน โดย ททท. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวชุมชน พร้อมสร้างการรับรู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจในมิติการท่องเที่ยวชุมชนมากขึ้นอย่างยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาสินค้าสินค้าท่องเที่ยวชุมชนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าการดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกันนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป