ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
กฟผ. – ททท. ผนึกกำลังส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากสู้พิษโควิด-19
11 ก.ย. 2563

กฟผ. ร่วมกับ ททท. ผนึกกำลังเสริมความเข้มแข็งชุมชนผ่านการท่องเที่ยว สนับสนุนสินค้าชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการและชุมชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์ โควิด-19

                (10 กันยายน 2563) นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมแถลงข่าวในงาน “พลังงานสร้างไทย กฟผ. สร้างพลังชุมชน” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ณ อาคาร ท.103 กฟผ. สำนักงานใหญ่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง กฟผ. พร้อมเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะร่วมช่วยเหลือประชาชนภายใต้แนวคิด “พลังงานสร้างไทย กฟผ. สร้างพลังชุมชน” โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนรอบเขตเขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชนจากการท่องเที่ยว และการจำหน่ายสินค้าชุมชน ทั้งการจำหน่ายในร้านค้าภายในเขตเขื่อนโรงไฟฟ้า และการจัดตลาดนัดในพื้นที่ กฟผ. สำนักงานใหญ่ การนำชุมชนมาร่วมจัดแสดงสินค้ากับเครือข่ายพันธมิตรส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดจนช่องทางออนไลน์ ในกลุ่ม Facebook “ตลาดนัดเอนจี้ ของดีทั่วไทย” โดยมีจิตอาสา กฟผ. คอยดูแลให้ความช่วยเหลือชุมชนในการโพสต์สินค้าให้น่าสนใจ ช่องทางการจัดส่งสินค้า กฎหมายการค้าขายออนไลน์ และการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขาย ทั้งนี้ คาดว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบโรงไฟฟ้าและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนผ่านช่องทางต่าง ๆ จะก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด

“กฟผ. และ ททท. มีความร่วมมือทางการท่องเที่ยวระหว่างกันมากว่า 20 ปีแล้ว โดยกิจกรรมท่องเที่ยวของ กฟผ. เช่น เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ (Mae Moh Festival) จ.ลำปาง การแข่งขัน “จักรยานเขื่อนภูมิพล เสือภูเขานานาชาติ” จ.ตาก ได้บรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยวของ ททท. สำหรับแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันต่อไปนั้นจะมีการขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้น ทั้งการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา และยังมีแนวคิดที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว ในพื้นที่ภาคใต้ต่อไปในอนาคต เช่น ที่เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีความสวยงามเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ของนักท่องเที่ยว รวมถึงเขื่อนและโรงไฟฟ้าอื่น ๆ ในภาคใต้ เช่น เขื่อนบางลาง จ.ยะลา ที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน เป็นต้น” ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว

นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง รวฟ. กล่าวเสริมว่า ในปี 2563 นี้ กฟผ. จะจัดทริปนำร่องเส้นทางท่องเที่ยวใน 4 เส้นทาง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี และโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา ซึ่ง กฟผ. ได้มุ่งเน้นที่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม ซึ่งจะมิใช่เพียงแค่ชุมชนโดยรอบเขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ. เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแหล่งท่องเที่ยวรอบนอกชุมชนของ กฟผ. ด้วย เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนมุ่งสู่ความยั่งยืนในที่สุด

ทางด้าน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมของ “โครงการพลังงานสร้างไทย กฟผ. สร้างพลังชุมชน” ททท. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว จะร่วมประชาสัมพันธ์โครงการฯ และกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้าน กฟผ. ก็มีฐานทรัพยากรที่ทรงคุณค่ามากมาย สามารถนำมาสร้างสรรค์และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม พร้อมยังสามารถกระจายประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นใกล้เคียงบริเวณเขื่อนและโรงไฟฟ้า เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น การนำสินค้าที่เป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านมาจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว จะช่วยให้ชุมชนได้ผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน โดย ททท. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวชุมชน พร้อมสร้างการรับรู้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในมิติการท่องเที่ยวชุมชนมากขึ้นอย่างยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพและ พัฒนาสินค้าท่องเที่ยวชุมชนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าการดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกันนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

“พื้นที่ของ กฟผ. หลายแห่งมีจุดเด่นสวยงามที่ ททท. จะนำไปสร้างสรรค์ต่อยอดกิจกรรมทางการท่องเที่ยวต่อไปได้ โดยจะเป็นในรูปแบบการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal Tourism) ที่มีการเพิ่มเติมในเรื่องมาตรการสาธารณสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวคาดหวังนอกเหนือจากเรื่องความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวและการมีมาตรฐานการบริการที่ดี สำหรับในปี 2563 นี้ ททท. และ กฟผ. มีแนวคิดที่เห็นตรงกันในเรื่องการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม (Environmental Concern) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว อย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) โดยจะตอบโจทย์ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ทั้งนี้ ททท. และทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งมีห่วงโซ่อุปทานค่อนข้างมาก มีการจ้างงานในระดับสูง จึงขอเชิญชวนให้คนไทยออกไปเที่ยวเมืองไทยซึ่งต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยยังคงอยู่อย่างยั่งยืนสวยงามสืบไป” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวฝาก

                ในช่วงท้ายของงานแถลงข่าว นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. ได้นำนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการ ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และคณะสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมพื้นที่บริเวณสวน 50 ปี กฟผ. ซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างอาคาร ท.103 ใกล้กับร้านกาแฟคุณสายชล ซึ่งในวันนี้มีการเปิดร้านให้บริการเป็นวันแรก พร้อมทั้งการจัดแสดงแกลลอรี่รูปภาพบอกเล่าที่มา ของร้านกาแฟคุณสายชล รวมถึงมีบูธจัดแสดงสินค้าชุมชนโดยรอบเขตเขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ. อีกด้วย

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...