พาณิชย์เผยสถิติการค้าชายแดน-ผ่านแดนไทยเพื่อนบ้าน 7 เดือน ลด 8.52% มีมูลค่า 741,290 ล้านบาท ระบุด้านการค้าชายแดน มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง และการค้าผ่านแดน จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง
11 ก.ย.2563 นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ช่วง 7 เดือน ปี 2563 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 741,290 ล้านบาท ลดลง 8.52% แบ่งเป็นการส่งออก 428,810 ล้านบาท ลดลง 8.19% และการนำเข้า 312,480 ล้านบาท ลดลง 8.98% เกินดุลการค้า 116,330 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนและผ่านแดนที่ปรับตัวลดลง สอดคล้องกับการส่งออกภาพรวมของประเทศที่ปรับตัวลดลง เพราะยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้มีการปิดด่านการค้า ทำให้การค้ายังไม่คล่องตัว แต่แนวโน้มการค้าเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่กรมฯ ได้ผลักดันและประสานงานให้มีการเปิดด่านการค้าได้เพิ่มมากขึ้น
ล่าสุดเดือน ส.ค.2563 ที่ผ่านมาชายแดนด้านมาเลเซีย กรมฯ ได้เร่งรัดการเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม โดยผลักดันการเปิดด่านด้านชายแดนไทย-มาเลเซีย ขอให้ทางการมาเลเซียเปิดเส้นทางขนส่งจำนวน 2 ด่าน ได้แก่ ด่านเป็งกาลันกูโบของมาเลเซียตรงข้ามด่านตากใบของไทย และด่านบูกิตบุหงาของมาเลเซียตรงข้ามด่านบูเก๊ะตาของไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของทางมาเลเซีย
ส่วนทางด้านกัมพูชา ได้จัดคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ณ จังหวัดสระแก้ว ในการเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าชั่วคราว จากด่านศุลกากรอรัญประเทศของไทยไปยังกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหาความแออัด เนื่องจากเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่มีสัดส่วนมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทย-กัมพูชา ถึง 54.11% ของมูลค่าการค้ารวม โดยให้มาใช้เส้นทางที่สะพานหนองเอี่ยน-สตรึงบท ซึ่งเป็นสะพานที่ก่อสร้างใหม่แต่ยังไม่เปิดใช้งาน และมีระยะทางห่างออกไป 10 กิโลเมตร คาดว่าจะสามารถลดระยะเวลารอคอยที่ด่านอรัญประเทศได้ถึงเท่าตัว
นายกีรติ กล่าวว่า ปัจจุบัน ณ วันที่ 13 ส.ค. 2563 ไทยได้เปิดจุดผ่านแดน (จุดผ่านแดนถาวร/จุดผ่านแดนชั่วคราว/จุดผ่อนปรนการค้าและการท่องเที่ยว/จุดผ่อนปรนพิเศษ) รวม 40 แห่ง จากทั้งหมด 97 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งกรมฯ จะร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ดำเนินการผลักดันเปิดจุดผ่านแดนให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนต่อไป
สำหรับรายละเอียดการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ (มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา) พบว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 130,920 ล้านบาท ลดลง 23.57% รองลงมาคือ สปป.ลาว มูลค่า 107,211 ล้านบาท ลดลง 7.79% เมียนมา มูลค่า 100,666 ล้านบาท ลดลง 13.64% กัมพูชา มูลค่า 94,835 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.82% โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ และน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ เมียนมา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันดีเซล และผ้าผืนและด้าย และกัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สินค้าปศุสัตว์ และรถยนต์นั่ง
ด้านการค้าผ่านแดนไปยัง จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ พบว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งมีมูลค่าการค้ารวม 131,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.39% รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 49,974 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.26% เวียดนาม มูลค่า 34,919 ล้านบาท ลดลง 21.82% และประเทศอื่นๆ มูลค่า 91,661 ล้านบาท ลดลง 15.81% สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปจีน ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นฯ เครื่องคอมพิวเตอร์ฯ และยางพารา สิงคโปร์ ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาป เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า และเวียดนาม ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ