ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน ย้อนกลับ
ค่าตอบแทนออสเตรเลีย เชื่ออเมริกา ไม่คบค้าจีน
17 ก.ย. 2563

โลกของจีน : โดย ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ

 

ค่าตอบแทนออสเตรเลีย

เชื่ออเมริกา ไม่คบค้าจีน

 

เคยเขียนไว้ในคอลัมน์นี้ว่า ในเกมการเมืองระหว่างประเทศ รัฐบาลแคนเบอร์ร่าใกล้ชิดกับวอชิงตัน สมรู้ร่วมคิดกันมาหลายงาน โดยเฉพาะการร่วมสกัดกั้นบทบาทของจีนในแปซิฟิก ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ การร่วมแบนเทคโนโลยี HUAWEI ในทันทีที่วอชิงตันส่งสัญญาณ

หรือหลังจากที่ สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย วางสายโทรศัพท์กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากการสนทนาเรื่อง COVID-19 เมื่อตอนต้นปี สกอตต์ได้ประกาศเรียกร้องเชิญชวนให้นานาชาติมาร่วมสอบสวนจีน เรื่องการปกปิดต้นตอไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ทรัมป์จุดประเด็นว่า หลุดออกมาจากแล็บที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย

หรือหลังจากที่รัฐบาลปักกิ่งประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงต่อเกาะฮ่องกง เพื่อสยบความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต่างชาติหนุนหลัง ผู้นำออสเตรเลียได้ประกาศระงับข้อตกลงการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ที่ทำไว้ร่วมกับฮ่องกงและจีน พร้อมทั้งสนับสนุนให้พลเมืองฮ่องกงที่ต้องการลี้ภัยการเมือง ขอวีซ่าเข้าออสเตรเลียได้สะดวกขึ้น

การที่ออสเตรเลียร่วมสุมหัวอเมริกาล็อคเป้าโจมตีจีนอย่างไม่เกรงใจความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าที่มีต่อกัน   อาจจะเพราะมั่นใจว่า มีอเมริกาเป็นลูกพี่ใหญ่หนุนหลัง อาจจะเพราะเชื่อมั่นว่าเ ศรษฐกิจออสเตรเลียแข็งแกร่งเติบโตต่อเนื่องในช่วงสามทศวรรษจนผ่านสารพัดวิกฤติมาได้ 

ผู้นำออสเตรเลียคงประเมินสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงต้นปีว่า แค่โรคระบาดจากภายนอกที่ออสเตรเลียเอาอยู่สามารถควบคุมได้ จึงเทหมดหน้าตักเลือกข้างอเมริกาอย่างออกนอกหน้า โดยไม่หวั่นผลกระทบที่จะตามมา ทั้งๆ ที่มีเสียงเตือนจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านและนักวิชาการว่า นายกรัฐมนตรีสกอตต์กำลังเดินนโยบายผิดพลาด กำลังพาออสเตรเลียไปผิดทาง การถอยห่างหรือทะเลาะกับจีนในยุคปัจจุบัน น่าจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

ที่ผ่านมา จีนคือคู่ค้ารายสำคัญของออสเตรเลีย สินค้าส่งออกที่ขายให้จีนมากถึงร้อยละ 38 ของการส่งออกสินค้าทั้งหมด ส่วนรายได้จากภาคการท่องเที่ยวและการศึกษาก็ มีนักท่องเที่ยวจีนและนักศึกษาจีนเป็นผู้ใช้บริการเป็นส่วนใหญ่

ยกตัวอย่างการส่งออกถ่านหินและเหล็กในปี 2018 มียอดการส่งออกรวมเกือบ 5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 51% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ประเทศหลักๆ ที่ออสเตรเลียส่งออกไปก็คือ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะจีนนั้น ในปี 2018 มีมูลค่าทั้งหมด 2.3 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 50% ของยอดรวม

ในด้านการศึกษา ในปี 2018 มหาวิทยาลัยของออสเตรเลียกอบโกยรายได้จากนักศึกษาต่างชาติมากถึง 3.76 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี โดยมียอดนักศึกษาจีนมาเรียนที่ออสเตรเลียมากกว่า 2 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 38.3 ของนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดในออสเตรเลีย

แต่วันนี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งของออสเตรเลียอยู่ในภาวะเสี่ยงล้มละลาย เพราะนักศึกษาจากจีนที่มีสัดส่วน 1 ใน 3 ของนักศึกษาทั้งหมด ยังกลับเข้าออสเตรเลียไม่ได้ ยิ่งมาเจอรัฐบาลเลือกข้างหาเรื่องทะเลาะกับจีน บรรดาผู้ปกครองและตัวนักศึกษาเองต้องคิดหนักต่ออนาคตและความปลอดภัยในเรื่องการเหยียดผิว

ว่าไปแล้วเศรษฐกิจของออสเตรเลียที่เคยเข้มแข็งมายาวนานโตเฉลี่ยปีละ 3.2% ได้เริ่มออกอาการเซๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2018 อัตราเติบโตลดลงเหลือ 2.7% และ 2019 หดเหลือแค่ 1.7%  เหตุผลเพราะการหดตัวของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้าระหว่างจีน-อเมริกา         

สำหรับเศรษฐกิจออสเตรเลียในปี 2020 ไตรมาสแรกหดตัว 0.3% ไตรมาสสอง หดตัว 7%  ยอดนำเข้าลดลง 2.4% ยอดส่งออกภาคบริการลดลง 18.4% คาดว่าถึงสิ้นปีนี้ GDP จะติดลบ 6% หดตัวมากที่สุดในรอบ 90 ปี ยอดคนว่างงานทั่วประเทศจะถึง 9.3% แต่อาจจะหนักกว่านั้น หากการระบาดระลอก 2 รุนแรงยิ่งขึ้น และความบาดหมางกับจีนทวีความรุนแรงเป็นสงครามการค้าคู่ใหม่

รัฐบาลออสซี่เห็นแล้วว่า สถานการณ์ผิดคาดจากที่เคยมองโลกแง่ดีเมื่อต้นปี จึงมีแผนใช้เงิน 168,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท ขยายเวลาช่วยภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ช่วยจ้างงาน 1 ล้านคน ออกไปอีก 6 เดือน ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลใช้งบ 7 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) ช่วยจ้างงานจนถึง 30 กันยายนนี้

ปัจจุบันออสเตรเลียมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 26,000 คน ยอดเสียชีวิต 678 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2020)  ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเมลเบิร์น รัฐวิคตอเรียน เมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน ระบุว่า ออสเตรเลียมีแนวโน้มจะต้องปิดพรมแดนต่อเนื่องถึงปี 2564 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งนั่นหมายถึงความฝันที่จะทำ Travel Bubble กับกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อฟื้นเศรษฐกิจยังเป็นเรื่องห่างไกล ขณะที่ผลสะท้อนกลับจากการเข้าไปยุ่งเรื่องจีนก็แรงขึ้นเรื่อยๆ       

ต้นเดือนพฤษภาคม จีนขึ้นภาษีนำเข้าข้าวบาร์เลย์จากออสเตรเลียสูงถึงร้อยละ 80 ถัดมากลางเดือนพฤษภาคมสั่งงดนำเข้าเนื้อวัวแปรรูป 4 รายของออสเตรเลีย คิดเป็นร้อยละ 35 ของปริมาณทั้งหมดที่ออสเตรเลียส่งออกไปจีน

ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา กรมศุลกากรของจีนประกาศยกเลิกการนำเข้าข้าวบาร์เลย์จากบริษัท CBH Grain PTY ของออสเตรเลีย พร้อมเพิกถอนใบอนุญาตส่งข้าวบาร์เลย์เข้าจีนของบริษัทดังกล่าว ด้วยเหตุผลว่า พบศัตรูพืชกักกันในข้าวบาร์เลย์ที่ส่งมาจากบริษัทดังกล่าวหลายครั้ง         

วันนี้สินค้าจากออสเตรเลียที่ส่งเข้าจีน ไม่ว่าจะเป็นไวน์ อาหารทะเล ผลไม้  ผลิตภัณฑ์นมสด ฯลฯ จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ

จีนได้เตือนรัฐบาลออสเตรเลียหลายครั้งแล้วว่า ให้ระวังผลสะท้อนกลับที่ออสเตรเลียจะต้องกล้ำกลืนฝืนทน หากยังทำตัวแทรกแซงกิจการภายในของจีน ซึ่งจีนได้ทำให้เห็นแล้วว่า ไม่ใช่แค่คำขู่

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...