17 ก.ย.2563 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดงาน 100,000 ไม้ยืนต้น หลักประกันทางธุรกิจ ประกาศความสำเร็จของการผลักดันใช้ไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ได้เงินทุนไปใช้มูลค่ากว่า 132 ล้านบาท
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดจนถึงวันที่ 15 ก.ย. 2563 มีผู้ขอนำไม้ยืนต้นมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแล้ว จำนวน 111,365 ต้น มูลค่ารวมกว่า 132,169,000 ล้านบาท โดยไม้ยืนต้นที่นำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี พิษณุโลก และอ่างทอง ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่อง มีการมอบวงเงินจดทะเบียนไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจให้แก่เกษตรกรทั้ง 4 จังหวัดข้างต้นแล้ว และจะผลักดันให้เกษตรกรในจังหวัดอื่นๆ นำไม้ยืนต้นมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ เพราะขณะนี้ ธ.ก.ส. พร้อมที่จะรับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันในการขอกู้เงินแล้ว เกษตรกรสามารถเข้าไปปรึกษาและยื่นขอกู้เงินกับธ.ก.ส.ได้ และหวังว่าธนาคารพาณิชย์อื่นจะนำไปใช้เป็นต้นแบบและปล่อยกู้ต่อไป
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าผลักดันให้เกษตรกรและประชาชนปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเองและชุมชน เพื่อเป็นทรัพย์สิน เป็นมรดกให้ลูกหลาน สร้างให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ที่มีความมั่งคง รวมถึงการนำไม้มีค่าไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และนำมาเป็นหลักประกันทรัพย์สินสำหรับขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ อีกทั้งเป็นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรชุมชนร่วมกัน เพิ่มพื้นที่ป่ารักษาระบบนิเวศ สร้างสิ่งแวดล้อมให้สมดุล และลดภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ปัจจุบันรัฐบาลได้แก้ไขกฎหมาย โดยยกเลิกไม้หวงห้ามบนที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ทำให้การปลูก การตัดไม้เศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ง่าย ประชาชนสามารถปลูกและตัดไม้เศรษฐกิจได้เหมือนการปลูกพืชเกษตรทั่วไป ทำให้มีส่วนช่วยส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้นเพิ่มมากขึ้น
-