กระทรวงเกษตรฯ จัดประชุมใหญ่ ชี้แจงสร้างความเข้าใจนโยบายสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการในปี 2559 แก่หน่วยงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ เดินหน้าแผนปฏิบัติงานและบูรณาการร่วมโดยมีเป้าหมายชัดเจน ย้ำ ยึดเกษตรกรเป็นศูนย์กลาง และเกษตรกรต้องได้รับประโยชน์สูงสุด
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมสัมมนาพร้อมมอบนโยบาย ปี 2559 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจนโยบายสำคัญที่กระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องเร่งดำเนินการในปี 2559 แก่หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ซึ่งมีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมและรัฐวิสาหกิจ และหัวหน้าส่วนราชการในภูมิภาค ได้แก่ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เกษตรจังหวัด สหกรณ์จังหวัด ประมงจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการอื่น ๆ และผู้เกี่ยวข้องประมาณ 1,000 คน
การประชุมมอบนโยบายครั้งนี้ นอกจากชี้แจงแนวทางการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติในระดับภูมิภาคแล้ว ยังมีการเสวนาการบูรณาการงานเร่งด่วนการแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้ง ปี 2558/59 การรับรู้ร่วมกันเกี่ยวกับงานสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งเรื่อง IUU พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย และเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งการเสวนาการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานในระดับพื้นที่ของกระทรวงเกษตรฯ ในเรื่องแนวทางการลดต้นทุนการผลิตและการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันสินค้าเกษตรด้วยระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และเรื่องฐานข้อมูลและศูนย์เรียนรู้
สำหรับงานเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องเร่งดำเนินการนั้น ได้กำหนดไว้ 5 เรื่อง ได้แก่ 1) การแก้ปัญหา IUU 2) การลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มโอกาสการแข่งขันสินค้าเกษตรด้วยระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ 3) การจัดทำฐานข้อมูลเกษตรกรให้ครอบคลุม 4) การแก้ปัญหาภัยแล้ง และ 5) การส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรอินทรีย์ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเน้นการสร้างแรงจูงในการทำงานให้กับเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยมีการจัดการประกวดการดำเนินงานในกิจกรรมส่งเสริมการเกษตรที่สำคัญของกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะการประกวดการดำเนินงานในพื้นที่ลดต้นทุนการผลิตและการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันสินค้าเกษตรด้วยระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งมีจำนวน 76 จังหวัดๆ ละ 1 แปลง รวม 76 แปลง ซึ่งจะต้องดำเนินการให้มีผลสำเร็จ เพื่อเป็นต้นแบบและเป็นศูนย์การเรียนรู้สาธิตให้กับพื้นที่อื่นๆ ในเรื่องของการรณรงค์การลดต้นทุนการผลิตตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อย่างไรก็ตาม การบูรณาการและสร้างเครือข่ายการทำงานในระดับจังหวัดและพื้นที่ นับเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่กระทรวงเกษตรฯ จะต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องของการแก้ไขปัญหาการเกษตรและการทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เรื่องการตลาด รวมทั้งสภาหอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรมที่มีหน่วยงานตัวแทนในระดับจังหวัด นอกจากนี้ การทำงานที่เป็นส่วนสำคัญคือการแก้ไขปัญหาภัยแล้งแบบบูรณาการของ 13 กระทรวง โดยใช้ชื่อว่า “ทีมประเทศไทย จังหวัด...” เช่น “ทีมประเทศไทย จังหวัดกำแพงเพชร” เป็นต้น รวมถึงการบูรณาการในรูปแบบศูนย์บูรณาการเรียนรู้การเกษตร 882 ศูนย์ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการบูรณาการหน่วยงานในระดับพื้นที่ และสิ่งสำคัญคือ เจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่ควรต้องรู้และรับผิดชอบงานในหน้าที่ของตนเอง รวมทั้งทันต่อสถานการณ์โลก มีความซื่อสัตย์สุจริต มีใจบริการเกษตรกรด้วยความปรารถนาดี สามารถสื่อสารและทำให้เกษตรกรเข้าใจได้ง่ายอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ผลที่ได้จากการประชุมสัมมนาในวันนี้ จะเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจร่วมกันของผู้ปฏิบัติงานทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ เกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ ในปีงบประมาณ 2559 และร่วมกันปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม สร้างความยั่งยืนให้ภาคการเกษตรไทย รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรกินดีอยู่ดีและมีความมั่นคงในอาชีพต่อไป