รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ สั่งการหน่วยงานด้านพลังงาน ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมความพร้อมรับมือพายุ “โนอึล” เชื่อมั่นความพร้อมทั้งด้านไฟฟ้า น้ำมันมีศักยภาพเพียงพอในการให้บริการประชาชน
ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องพายุระดับ 3 (โซนร้อน) โนอึล บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 170 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม และจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม และเริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงในหลายพื้นที่ ซึ่งในด้านของกระทรวงพลังงานได้เตรียมการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจส่งกระทบต่อด้านพลังงานทั้งด้านไฟฟ้าและน้ำมัน
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดบูรณาการความร่วมมือด้านพลังงานร่วมกันในการป้องกันผลกระทบจากพายุโนอึล โดยในด้านไฟฟ้า ได้มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและมาตรการป้องกันผลกระทบต่อประชาชนครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ ด้านระบบส่งไฟฟ้า ได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเสาไฟฟ้าชั่วคราวและอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้รองรับกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคงแหล่งผลิตไฟฟ้าและเชื้อเพลิง ได้มีการประสานเตรียมความพร้อมด้านเชื้อเพลิงที่เพียงพอ ด้านโรงไฟฟ้าและการรองรับน้ำในเขื่อนของ กฟผ. ได้มีการเตรียมความพร้อมบุคลากรด้านการผลิตและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า พร้อมทั้งได้มีการตรวจสอบความพร้อมของเขื่อนทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว ได้แก่ เขื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย เขื่อนน้ำพุง เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนสิรินธร รวมถึงเขื่อนในภาคเหนือ
ที่อาจได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เพื่อให้การผลิตไฟฟ้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมไฟฟ้าในประเทศ ด้านการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้มีการเตรียม จัดถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างทันที
สำหรับด้านน้ำมันเชื้อเพลิง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ มีมาตรการในการป้องกันและตรวจสอบอุปกรณ์และระบบถังเก็บน้ำมันใต้ดินที่สถานีบริการน้ำมันให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมัน ว่าเป็นไปตามมาตรฐาน ไม่มีน้ำปนเปื้อน รวมถึงให้พนักงานเตรียมพร้อมรับมือตามแนวปฏิบัติในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินที่สถานีบริการน้ำมันเพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้บริโภค
นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานจังหวัดในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศจะเตรียมการร่วมกับสถานีบริการน้ำมัน ในการตรวจคุณภาพน้ำมันกรณีสถานีบริการถูกน้ำท่วม พร้อมทั้งจะลงพื้นที่ให้คำปรึกษากับชาวบ้านกรณีอุปกรณ์ด้านพลังงานชุมชน อาทิ บ่อหมักก๊าซชีวภาพ พาราโบล่าโดมอบแห้ง หรือแผงโซลาร์เซลล์ ที่อาจได้รับความเสียหายจากพายุดังกล่าว