พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2558 เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานดำเนินโครงการ ขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันของประเทศ โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เป็นผู้ดำเนินการพิจารณาสนับสนุนผู้ลงทุนที่จะมาพัฒนาโครงการฯ เพื่อให้เกิดการแข่งขันเสรี เพื่อให้ระบบการขนส่งน้ำมันของประเทศมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
โดยปัจจุบันมีผู้สนใจลงทุนในการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อทั้ง 2 เส้นทางเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 31 สิงหาคม 2559 ธพ.ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) ภายใต้กลุ่มบริษัท เอส ซี กรุ๊ป (SC Group) เพื่อสนับสนุนโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการวางท่อขนส่งน้ำมัน การออกใบอนุญาตให้ผู้ลงทุน และให้ข้อเสนอแนะ แนะนำ รวมถึงข้อคิดเห็นต่อการดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐ ในโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากที่ก่อนหน้านี้ทาง ธพ. ได้มีการลงนาม MOU กับทางบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) เพื่อลงทุนก่อสร้างขยายระบบท่อน้ำมันไปยังภาคเหนือแล้ว
สำหรับโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น จะทำการต่อขยายจากระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อที่มีอยู่เดิมของบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (THAPPLINE) ที่คลังน้ำมันอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ไปยังคลังน้ำมันปลายทางที่ จังหวัดขอนแก่น เป็นระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ ธพ. ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) แล้ว ทางบริษัทฯ จะไปดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อไป และคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ต้นปี 2561และเปิดใช้งานได้ปลายปี 2563 ตามแผน ที่ได้วางไว้