พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม กนช. เพื่อรับทราบผลการบูรณาการหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาด้านน้ำ การเตรียมการรองรับฤดูฝน รวมทั้งการพิจารณากรอบแผนงาน/โครงการสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมของหน่วยงานที่จะเสนอขอตั้งงบประมาณในปี 2565 โดยมีมติเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จ.ระยอง ของกรมชลประทาน 2.โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จ.เชียงราย ของกรมชลประทาน และ 3.โครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า จากแหล่งน้ำลำตะคองมายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า จ.นครราชสีมา ของเทศบาลนครราชสีมา
นอกจากนี้ยังได้พิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อกำหนดขอบเขต บทบาท ภารกิจ หน้าที่และอำนาจของหน่วยงานด้านการบริหารทรัพยากรน้ำของประเทศ หลักเกณฑ์การมอบหมายคณะกรรมการลุ่มน้ำปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการลุ่มน้ำประจำลุ่มน้ำตามมาตรา 27 ของพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์ ฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติและแม่น้ำลำคลอง ให้เป็นพื้นที่ชะลอและรองรับน้ำหลากในช่วงฤดูฝนและสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ได้ในฤดูแล้ง โดยเร่งดำเนินการใน 3 แห่งนำร่อง ได้แก่ บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร หนองหาร จังหวัดสกลนคร และคลองแสนแสบ กรุงเทพมหานคร
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จ.ระยอง เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำภายในแผนพัฒนารองรับเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) สามารถกักเก็บน้ำได้ 40 ล้าน ลบ.ม. เมื่อแล้วเสร็จ สามารถขยายพื้นที่ชลประทานได้ 30,000 ไร่ เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภค-บริโภคและการเกษตรในเขต อ.เขาชะเมา ช่วยบรรเทาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลากในเขต อ.แกลง และเป็นแหล่งน้ำสำรองสนับสนุนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปี 65-67 งบประมาณทั้งสิ้น 3,551 ล้านบาท
ส่วนโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จ.เชียงราย เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และช่วยชะลอการไหลของน้ำในฤดูน้ำหลาก บรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย เมื่อแล้วเสร็จ จะสามารถกักเก็บน้ำได้ 32 ล้าน ลบ.ม. ส่งน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรได้ 17,200 ไร่ และส่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคของราษฎรได้ 4,775 ครัวเรือน ระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี ตั้งแต่ปี 6568
และโครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า จ.นครราชสีมา เป็นโครงการก่อสร้างและปรับปรุงระบบประปาทดแทนระบบเดิมที่เสื่อมสภาพ เพื่อลดการสูญเสียในระบบท่อส่งน้ำและรองรับการขยายตัวของชุมเมืองพื้นที่เทศบาลนครนครราชสีมาและพื้นที่ข้างเคียง จำนวน 7 ตำบล เมื่อแล้วเสร็จ จะทำให้มีปริมาณน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาเพิ่มจากเดิม 50,000 ลบ.ม./วัน พื้นที่รับประโยชน์ 11 ตำบล 229,351 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 76.70 ตารางกิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี65 ซึ่งกนช.จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเปิดโครงการดังกล่าวต่อไป
ท้ายสุด พลเอกประวิตร กล่าวขอบคุณ กรรมการทุกท่าน ที่มาเข้าร่วมประชุมและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการตามมติที่ประชุม เพื่อแก้ไขปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งเรื่องน้ำท่วม ภัยแล้ง น้ำอุปโภค บริโภค ให้เกิดผลในระยะยาวอย่างยั่งยืนต่อไป