คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติเอกฉันท์ 20 เสียง ต่อ 4 เสียงไม่ทบทวนแบน ‘พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส’ กรมวิชาการเกษตร รับเบื้องต้นยังไม่สามารถจัดหาสารทดแทนได้ แถมสารทางเลือกซึ่งต้นทุนสูงกว่า
28 ก.ย.2563 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกรกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติ 20 ต่อ 4 ท่าน ไม่เห็นด้วยให้ทบทวนมติยกเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตร ได้แก่ พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ถือเป็นที่สิ้นสุด จากกรรมการทั้งหมดที่มี 27 ท่าน ตามข้อเรียกร้องของสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย และผู้แทน 19 ภาคีเกษตร
โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่า ไม่สมควรทบทวนการออกประกาศที่ให้ยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจากมติเดิมที่ประกาศเพิ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเหตุผลรองรับชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นสารอันตรายมีผลเสียต่อสุขภาพ เห็นได้จากต่างประเทศที่ประกาศยกเลิกใช้สารนี้ในหลายประเทศแล้วเช่นกัน
นายอภัย สุทธิสังข์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตร กล่าวว่า เบื้องต้นยอมรับทางกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังไม่สามารถจัดหาสารทดแทนได้ แต่มีสารทางเลือกซึ่งต้นทุนสูงกว่า และกระบวนการทางเกษตรอินทรีย์ในการควบคุม/กำจัดวัชพืช แมลง/ศัตรูพืชให้ผลผลิตทางการเกษตรปลอดสารเคมีด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหามาตรการทางการตลาดด้านราคาพืชผลทางการเกษตรจะขายได้ราคาสูงขึ้นจูงใจให้เกษตรกรหันมาใช้กระบวนการเกษตรอินทรีย์มากขึ้น และเลิกใช้สารเคมีในที่สุด
นอกจากนี้ จะเห็นว่าเกษตรกรกลุ่มเครื่องจักรกลทางการเกษตรได้รวมกลุ่มกันรับจ้างไถพรวน ไถกลบต่างๆ แทนการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นทางเลือกให้เกษตรกรมากขึ้น รวมถึงการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อยเพื่อทำเกษตรแปลงใหญ่ช่วยลดต้นทุน
ส่วนกรณีการนำเข้าสินค้าที่มีสารเคมีต้องห้ามปนเปื้อน เช่น ข้าวสาลี ถั่วเหลือง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มิ.ย. 2564 นั้น ที่ประชุมได้มติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตวัตถุอันตราย ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยารับผิดชอบพิจารณา 1 คณะ