“สุพัฒนพงษ์” ประกาศมุ่ง 3 นโยบายหลัก คือ 1.พลังงานกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.พลังงานสร้างงานสร้างรายได้ และ 3.พลังงานวางรากฐานเพื่ออนาคต พร้อมตั้งเป้าหมายดำเนินงาน 7 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1.โรงไฟฟ้าชุมชน 2.การเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ 3.การจัดทำหลักเกณฑ์กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปี 2564 4.การผลักดันยานยนต์ไฟฟ้า 5.แนวทางการบริหารจัดการการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในกิจการปิโตรเลียม (Decommissioning) 6.ศูนย์กลางการซื้อ-ขายก๊าซแอลเอ็นจีของภูมิภาคอาเซียน (Regional LNG Hub) และ 7.การกระตุ้นเศรษฐกิจ การจ้างงาน การบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19
“สุพัฒนพงษ์” ยังย้ำว่า กระทรวงพลังงานจะเดินหน้านโยบายต่างๆ ที่มุ่งประโยชน์ต่อประชาชน ลดภาระค่าครองชีพช่วงโควิด-19 และให้กลุ่มพลังงานช่วยเหลือประชาชนผ่านการจ้างงาน จากการรวบรวมข้อมูลคาดว่าจะมีการจ้างงานประมาณ 3 หมื่นตำแหน่งขณะนี้ในด้านราคาพลังงานไม่น่าห่วง เพราะราคาค่อนข้างนิ่งในระดับไม่สูงมาก คือ น้ำมันดิบราคาประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลถึงสิ้นปี ขณะที่ราคาก๊าซทั้งเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะ แอลพีจีครัวเรือนก็ตรึงราคาถึงสิ้นปี ส่วนค่าไฟอยู่ระหว่างพิจารณาโครงสร้างต้นทุนที่เหมาะสม ลดภาระประชาชน”
เป็นนโยบายที่ประชาชนทุกภาคส่วนต่างเกาะติดผลลัพธ์ พิสูจน์ฝีมือรัฐมนตรีพลังงานคนที่ 14 ในรอบ 18 ปีของการก่อตั้งกระทรวง