สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนได้ สอดรับภารกิจของทั้งสองหน่วยงานที่มุ่งส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนา SME ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มาโดยตลอดนับตั้งแต่กลางปี 2562 เป็นต้นมา โดยหนึ่งในภารกิจหลักของ ก.ล.ต. คือ การสนับสนุนและเปิดช่องทางให้ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยการออกและปรับปรุงหลักเกณฑ์รองรับและลดอุปสรรคในการระดมทุน เช่น หลักเกณฑ์การออกและเสนอขายหุ้นและหุ้นกู้แปลงสภาพในวงจำกัด และหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายหลักทรัพย์ผ่านระบบคราวด์ฟันดิง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการระดมทุน รวมถึงการจัดกิจกรรมสัมมนาให้ข้อมูลความรู้และคำแนะนำแก่ SME ในการใช้เครื่องมือและช่องทางการระดมทุน โดยล่าสุดมี SME ที่ระดมทุนผ่านตลาดทุนประสบความสำเร็จแล้ว 13 ราย มูลค่ารวมทั้งสิ้น 78.19 ล้านบาท
“ก.ล.ต. และ สสว. มีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งคณะทำงานเสริมสร้างวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจเริ่มต้น กิจการเงินร่วมลงทุน และนิติบุคคลร่วมลงทุนสู่ตลาดทุนไทย หรือ “คณะทำงาน SME Startup PE VC” และการร่วมจัดทำโครงการส่งเสริมการระดมทุนผ่านตลาดทุน (PP-SME) เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ SME ที่เป็นบริษัทจำกัดสามารถระดมทุนโดยการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อบุคคลในวงจำกัดได้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ SME เข้าถึงช่องทางการระดมทุน ซึ่ง MOU ในครั้งนี้ถือเป็นการบูรณาการความร่วมของทั้งสองหน่วยงานอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ ก.ล.ต. และ สสว. ในฐานะหน่วยงานหลักที่มุ่งพัฒนา SME ของประเทศ สามารถแลกเปลี่ยนและสนับสนุนข้อมูล ความรู้ และความเชี่ยวชาญในภารกิจระหว่างกัน ตลอดจนการนำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาและส่งเสริมระบบนิเวศด้านตลาดทุนที่เหมาะสมกับความต้องการและความพร้อมของ SME ต่อไป” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สสว. และ ก.ล.ต. ครั้งนี้ สอดคล้องกับพันธกิจหลักและทิศทางการดำเนินงานนโยบายของ สสว. ที่มุ่งเน้น 3 เรื่องคือ 1. การแสวงหาช่องทางการตลาดให้กับเอสเอ็มอีเพื่อเร่งเพิ่มรายได้ภายหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลายลง 2. การลดค่าใช้จ่ายเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการ และ 3. การอำนวยความสะดวกเพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้และกลับมาเข้มแข็งในอนาคต
“สสว. คาดว่า ภายใต้ขอบเขตความร่วมมือที่มุ่งเน้นเรื่องความร่วมกันพัฒนา ผลักดัน และส่งเสริมให้มีระบบนิเวศตลาดทุนที่เหมาะสมกับเอสเอ็มอีเพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการ ซึ่ง สสว. ก็จะใช้เครื่องมือของ สสว. ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมความร่วมมือสู่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างโอกาสให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านตลาดทุน เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถบริหารจัดการการเงินให้มีประสิทธิภาพรวมถึงยังเป็นการต่อยอดธุรกิจของเอสเอ็มอี สามารถเลือกลงทุนในช่องทางที่เหมาะสมได้ต่อไป” นายวีระพงศ์ กล่าว