อธิบดีฯยุทธนา นำทีมผู้บริหารกรมธนารักษ์ ลงพื้นที่ ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ แจกสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุรอบ 2 รวม 960 ราย กว่า 2,400 ไร่ หวังสนองนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นายธำรงค์ ทองตัน ที่ปรึกษาด้านพัฒนาการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ และ นายสมมาตร มณีหยัน ผอ.กองเทคโนโลยีการสำรวจและฐานข้อมูลที่ราชพัสดุลงพื้นที่มอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุตามนโยบายเรื่องลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ภายใต้ โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” โดยมี นายวิรัช เกตุนวม ธนารักษ์พื้นที่นครสวรรค์ นายนิพนธ์ เลิศล้ำ ธนารักษ์พื้นที่พิจิตร นายสามารถ เมืองเงิน ธนารักษ์พื้นที่กำแพงเพชร และนางกาญจนา บุญญาพงษ์พันธ์ ธนารักษ์พื้นที่อุทัยธานี ให้การต้อนรับ
โดยครั้งนี้ ตนได้มอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุของ จ.นครสวรรค์ และได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นจังหวัดที่ 11 ซึ่งการจัดพิธีฯของ จ.นครสวรรค์ เป็นการมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุรอบที่สอง โดยรอบแรก (วันที่ 11 ก.ย.2563) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เข้าร่วมงานฯ
สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ ได้นำที่ดินราชพัสดุแปลงเขตประกาศหวงห้ามที่ดินฯ พ.ศ.2483 ต.หนองหลวง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ นำมาจัดให้ราษฎรผู้ครอบครองเช่าที่ราชพัสดุจำนวน 960 ราย เนื้อที่ประมาณ 2,456 – 1 – 88 ไร่ โดยเช่าเป็นที่อยู่อาศัยในอัตราค่าเช่า25 สตางค์ ถึง 75 สตางค์ต่อตารางวา ต่อเดือน และเช่าเพื่อประกอบการเกษตร ในอัตราค่าเช่า 20 บาท ต่อไร่ ต่อปี ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจาก จ.นครสวรรค์เป็นอย่างดียิ่ง โดยได้รับเกียรติจาก นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รอง ผจว.นครสวรรค์ นางจิตรา หมีทอง ปธ.สภา อบจ.นครสวรรค์ และ นายสมบุญ วงศ์วัชรานนท์ อภอ. ท่าตะโก มาร่วมมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุด้วย
ทั้งนี้ การมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุดังกล่าว จะเป็นการให้สิทธิการเช่าเพื่ออยู่อาศัยและประกอบการเกษตรให้แก่ราษฎรที่เข้าครอบครองที่ราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอยู่ก่อนวันที่ 4 ต.ค. 2546 และไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ ถือเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิทำกินและที่อยู่อาศัยให้แก่ราษฎร เพื่อให้ราษฎรเข้าสู่ระบบการเป็นผู้เช่ากับกรมธนารักษ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อันเป็นการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้นโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ด้วยดี เป็นผลมาจากความร่วมมือของทุกคนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและที่สำคัญคือ ภาคประชาชนผู้ถือครองที่ราชพัสดุ อันจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของราษฎรที่ดียิ่งขึ้น.