นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายน 2563 มีการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน แตะระดับ 50.2 เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเสถียรภาพการเมือง หลังจากมีการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง และการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของนายปรีดี ดาวฉาย ซึ่งจะเกี่ยวโยงกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวช้า และในอนาคตอาจเกิดการว่างงานมากขึ้นจากผลกระทบของโควิด-19 ทั้งนี้ มีความกังวลว่าหากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไม่เห็นผลได้ทันในเดือนตุลาคมนี้ จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวแบกรับภาระด้านการจ้างงานมากขึ้น มีความเสี่ยงที่จะปลดคนงานอีก 500,000 คน ในช่วงไตรมาส 4 รัฐบาลจำเป็นต้องประคับประคองให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจให้ได้ เพื่อประคองกำลังซื้อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมช่วงเดือนกันยายน อยู่ที่ระดับ 42.9 โอกาสหางานทำอยู่ที่ระดับ 48.2 และรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 59.4 โดยเป็นดัชนีที่ปรับตัวลดลงทุกรายการและหากภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นศรษฐกิจดีต่อเนื่องและดูแลโควิด-19 รอบสองได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าเศรษฐกิจปีหน้ามีโอกาสที่จะกลับมาเติบโตขึ้นได้ โดยมองว่าปี 2564 จีดีพีไทยจะกลับมาเป็นบวก 3-4% จากปีนี้ติดลบมากกว่า 7-8%