นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้จัดกิจกรรมเปิดตัวผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญการหาเสียง "เปลี่ยนประเทศไทยเริ่มได้ที่บ้านเรา" โดยนายธนาธร กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า ในประชาธิปไตยนั้นประชาชนเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน มีสิทธิเสรีภาพทางการเมือง และเป็นเจ้าของอำนาจ เมื่อเป็นเจ้าของอำนาจแล้วเราจึงมีสิทธิทางการเมืองในการเลือกตั้งตัวแทนของประชาชนไปใช้อำนาจแทนประชาชน แต่เราในฐานะพลเมืองมีสิทธิในการเลือกตั้งของเรากี่ครั้ง ซึ่งเรามีสิทธิในการเลือกตัวแทนของประชาชน 5 ครั้ง ได้แก่ 1.เลือกตั้งส.ส. 2.นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 3.สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 4.นายเทศมนตรีหรือนายองค์การบริการส่วนตำบล และ 5.สมาชิกสภาเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล
นายธนาธร กล่าวว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญ เพราะเป็นการเลือกตัวแทนเข้าไปจัดสรรทรัพยากรจำนวน 8 แสนล้านบาท ตามงบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2564 ท้องถิ่นเอาเงินส่วนนี้ไปให้บริการสาธารณะขั้นพื้นฐานกับประชาชน เป็นการเมืองที่มีระดับใกล้ชิกับประชาชนมากที่สุด มากยิ่งกว่า ส.ส. อย่างไรก็ตาม การบริหารของท้องถิ่นถูกครหาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการทุจริต นำประโยชน์สาธารณะไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว แสดงให้เห็นถึงการไม่ตอบสนองความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะเป็นการเอาภาษีของประชาชนไปเอื้อประโยชน์ จึงเป็นสิ่งที่คณะก้าวหน้าต้องการการเปลี่ยนแปลงและเข้ามาในการเมืองท้องถิ่น เพื่อให้การเมืองท้องถิ่นรับใช้ประชาชน
คณะก้าวหน้าลงแข่งขันสนามเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยยึดแนวทางของพรรคอนาคตใหม่เดิม คือ การหาเสียงด้วยนโยบาย ไม่ใช่การซื้อเสียง เพราะการซื้อเสียงเป็นจุดเริ่มต้นของการทุจริต ถ้าเราเข้าสู่อำนาจด้วยการใช้เงินย่อมต้องมีการถอนทุนคืน เราจะไม่ทำอย่างนั้น ดังนั้น เราจะใช้นโยบายในการแข่งขัน ซึ่งที่มาจากกรอบแนวคิดเดิมของพรรคอนาคตใหม่ ที่เชื่อว่าคนเท่าเทียมกัน ผลักดันให้ประเทศไทยเท่าทันโลก เป็นเสาหลักนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ โดยภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบและมุ่งหน้าทำงานในนามคณะก้าวหน้า เราแปรนโยบายระดับชาติมาเป็นระดับท้องถิ่นที่ประชาชนจับต้องได้
การกำจัดการทุจริตได้นั้น จะต้องเริ่มจากการใส่ประชาธิปไตยเข้าไป ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน และพัฒนาประชาธิปไตยโดยตรง เน้นการเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐเพื่อให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบและการมีส่วนร่วม สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้เกิดจากการสร้างนโยบายในห้อง แต่มาจากการเดิน 3 จริง คือ พื้นที่จริง ประชาชนจริง และสถานการณ์จริง นำเอาข้อมูลที่ได้มานั้นสร้างเป็นนโยบายต่างๆ
นายธนาธร กล่าวสรุปว่า วันนี้เราประกาศความพร้อมของคณะก้าวหน้า มีว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. 32 คน ซึ่งเรามีกรอบการทำงานท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า คือ 1.ยึดมั่นในคุณค่าประชาธิปไตย 2.ไม่เอาชนะทางการเมืองด้วยการซื้อเสียง แต่เอาชนะด้วยนโยบาย 3.ไม่มีประวัติการค้ามนุษย์และยาเสพติด 4.เราจะไม่ทุจริตเมื่อเข้าไปมีอำนาจ และ 5.ปฏิรูประบบราชการยุติการรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลาง วันนี้พวกเราพร้อม และอยากเชิญชวนประชาชนให้สนใจการเมืองท้องถิ่น การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2555 มีผู้ใช้สิทธิเพียง 54% จึงอยากให้กลับมาสนใจการเมืองถิ่น เพราะเป็นเรื่องที่จะได้เลือกผู้บริหารโดยตรง ถ้าไม่สนใจการเมืองท้องถิ่นเท่ากับว่าไม่สนใจภาษีของตัวเอง นี่เป็นเวลาดีที่สุดที่จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงประเทศไทย คนละไม้คนละมือเปลี่ยนแปลงประเทศไทยโดยเริ่มต้นที่บ้านเรา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. สังกัด คณะก้าวหน้า จำนวน 32 จังหวัด ประกอบด้วย 1.ฉะเชิงเทรา นายยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ 2.พะเยา นายชัยประพันธ์ สิงห์ชัย 3.นครราชสีมา นายสาธิต ปีติวรา 4.นครสวรรค์ นายศรัญ ฤกษ์อัตกร 5.สุรินทร์ นายมานพ แสงดำ 6.นครพนม นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ
7.แพร่ นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ 8.ร้อยเอ็ด นายสถาพร ว่องสันธพง์ 9.สิงห์บุรี นายสุรชัย บุญลือ 10.ลพบุรี นายฤทธิ์ พัวพันธ์ 11.สมุทรสงคราม นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย 12.สระบุรี นายวิทูลย์ แก้วสุวรรณ 13.สมุทรสาคร นายอวยชัย จาตุรพันธ์ 14.สุราษฏ์ธานี นายพงษ์ศักดิ์ โพธิครุประเสริฐ 15.อุบลราชธานี นายเชษฐา ไชยสัตย์ 16.หนองคาย นายกฤศภณ หล้าวงศา
17.หนองบัวลำภู นายสมเกียรติ เชษฐสุมน 18.อยุธยา นายวัสพงศ์ วิทูรเมธา 19.อ่างทอง นายโยธิน เปาอินทร์ 20.อุดรธานี นายฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ 21.อุตรดิตถ์ นายปัณณวัฒน์ นาคมูล 22.ราชบุรี นางภรมน นรการกุมพล 23.ตาก นายคริษฐ์ ปานเนียม 24.นครปฐม นายชัชวาล นันทะสาร 25.นนทบุรี นายไพบูลย์ กิจวรวุฒิ 26.ระยอง นางสว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ 27.บึงกาฬ นายภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น 28.พิษณุโลก นายณชพล พลอาสา 29.ปราจีนบุรี นางกฤษณ์กมล แพงศรี 30.พังงา นายสุทธิโชค ทองชุมนุม 31.สกลนคร นายณรงค์เดช อุฬารกุล และ 32.มุกดาหาร นายสุพจน์ สุอริยพงษ์