สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ วางแผนจัดสรรเงิน 2,930 ล้านบาท เพื่อซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวน 66 ล้านโดส ภายในปีหน้า
พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า วัคซีน 66 ล้านโดส จะครอบคลุมถึงคนไทย 33 ล้านคน หรือราว 50% ของประชากรในประเทศ
พรรณประภา กล่าวว่า “คณะกรรมการฯ ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขฯ เป็นประธาน ตัดสินใจสำรองวัคซีนโดยใช้ 2 แนวทาง”
ผู้ช่วยโฆษกระบุว่า “แนวทางแรก คือการจองวัคซีนผ่านโคแวกซ์ (Covax) ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การกำกับดูแลขององค์การอนามัยโลก (WHO) กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI) และองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (GAVI) ในสัดส่วน 20% ของจำนวนประชากรไทย”
ด้านวัคซีนล็อตที่สอง จะได้จากการจองผ่านผู้ผลิต 10 รายในสหรัฐฯ จีน สหราชอาณาจักร และรัสเซีย โดยประเทศเหล่านี้กำลังอยู่ระหว่างการทดลองวัคซีนระยะที่ 3 ในมนุษย์แล้ว
ด้านสถาบันวัคซีนแห่งชาติของไทยเชื่อว่าวัคซีนโรค COVID-19 จะพร้อมวางจำหน่ายภายในปีหน้า แต่งบจัดซื้อวัคซีนจำนวน 2,930 ล้านบาท ยังต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจว่างบดังกล่าวควรมาจากงบประมาณกลาง หรือ พ.ร.ก.เงินกู้เพื่อ COVID-19
ทั้งนี้ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เผยว่า วัคซีนจะถูกส่งมอบโดยแบ่งเป็นล็อตๆ เพื่อที่จะสามารถชำระเงินในรูปแบบผ่อนชำระได้ โดยวัคซีนจะถูกจัดสรรให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในแนวหน้าก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงจากโรค COVID-19 มากที่สุด