นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า สนค. ได้จัดทำดัชนีราคาขึ้นใหม่ 2 ชุด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนให้มากขึ้น ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคกลุ่มแรงงาน (CPI Worker) และดัชนีราคาค่าครองชีพพื้นฐาน (CPI-Basic ) หรือดัชนีราคาปัจจัยสี่ โดยดัชนีแรงงานจะนำไปใช้ประกอบการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำระดับประเทศและจังหวัด ส่วนดัชนีปัจจัยสี่จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถติดตามความเคลื่อนไหวราคาสินค้ากลุ่มที่สำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น
นางสาวพิมพ์ชนกให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคกลุ่มแรงงาน หรือ CPO-W เป็นดัชนีเศรษฐกิจการค้าใหม่ ที่ สนค.จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดทางเลือกในการสะท้อนภาวะค่าครองชีพของผู้บริโภคกลุ่มแรงงานโดยเฉพาะ เป็นการบูรณาการกระบวนการทำงานระหว่าง สนค. กับกับกระทรวงแรงงาน ในเรื่องการจัดเก็บข้อมูลค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคกลุ่มแรงงาน โดยผลการจัดทำน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะพบว่าผู้บริโภคกลุ่มแรงงานมีพฤติกรรมการบริโภคที่แตกต่างจากผู้บริโภคกลุ่มทั่วไป โดยจะใช้เงินในการบริโภคหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารสำเร็จรูป และหมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า มากกว่าหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร กล่าวคือค่าใช้จ่ายในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 42.06 ในขณะที่ ผู้บริโภคกลุ่มทั่วไปมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายหมวดนี้ที่ร้อยละ 36.70 สำหรับหมวดที่ผู้บริโภคกลุ่มแรงงานมีการใช้จ่ายรองลงมาได้แก่ หมวดเคหสถานและหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร คิดเป็นร้อยละ 20.41 และ 17.39 ตามลำดับ และหมวดอื่นๆ อีก 4 หมวด (หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา และศาสนา และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์) มีค่าใช้จ่ายเพียงร้อยละ 20.14 สำหรับผลการจัดทำดัชนีราคาผู้บริโภคกลุ่มแรงงานของประเทศ พบว่า เฉลี่ย 6 เดือน (ม.ค. – มิ.ย.) ปี 2563 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (AoA) ลดลงร้อยละ 0.81 ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคชุดทั่วไปของประเทศที่ลดลงร้อยละ 1.13 เมื่อจำแนกเป็นรายภาค พบว่า รูปแบบความเคลื่อนไหวของดัชนีราคาผู้บริโภคกลุ่มแรงงานเคลื่อนไหวเป็นไปในทิศทางเดียวกันในทุกภูมิภาค
ผอ.สนค. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การจัดทำดัชนีราคาผู้บริโภคกลุ่มแรงงานในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จัดทำเป็นระดับประเทศและระดับภาคเท่านั้น ยังจัดทำในระดับจังหวัดทั้ง 73 จังหวัด และกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่ง สนค. มั่นใจว่าตัวชี้วัดที่จัดทำขึ้นนี้ จะเป็นเครื่องชี้วัดที่มีประสิทธิภาพในการนำไปใช้ประกอบการวิเคราะห์และเสนอแนะมาตรการที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน ทั้งในระดับภาพรวมและระดับภูมิภาค เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในทุกระดับได้เป็นอย่างดี รวมทั้งอาจใช้เป็นเครื่องชี้วัดประกอบการพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นรายจังหวัดได้
สำหรับดัชนีอีกชุดหนึ่งที่เปิดตัวพร้อมกัน คือ ดัชนีราคาค่าครองชีพพื้นฐาน หรือดัชนีราคาปัจจัยสี่ เป็นดัชนีราคาที่คัดเลือกรายการสินค้าและบริการพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ (Basic Needs) ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มีการอุปโภคบริโภคเป็นประจำ โดยองค์ประกอบของดัชนีแบ่งเป็น 4 หมวด ได้แก่ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดเคหสถาน หมวดยา ของใช้ และบริการส่วนบุคคล และหมวดการขนส่งและการสื่อสาร ประกอบด้วยรายการสินค้าและบริการ จำนวน 111 รายการ ซึ่งมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายประมาณร้อยละ 66 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในตะกร้าเงินเฟ้อปัจจุบัน