วันที่ 1 ต.ค. 2559 ประเทศไทยได้ริ่มใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (ปี 2560-2564) ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงท้ายๆ ของการจัดทำแผน ซึ่งแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 จะแตกต่างจากแผนพัฒนาฯ ทั้ง 11 ฉบับที่ผ่านมา นั้นคือแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี
ปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า รัฐบาลเห็นว่าประเทศอยู่ระหว่างการปฏิรูปในทุกๆ ด้าน จึงจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ชาติที่ยาวกว่า 5 ปี และมอบหมายให้ สศช. ร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ร่างยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน คือ 1.การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ 2.ความมั่นคง 3.การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4.การสร้างความสามารถในการแข่งขัน 5.การสร้างโอกาสความเสมอภาคและความเท่าเทียม และ 6.การพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพของคน
ในขณะที่แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 จะมียุทธศาสตร์ 10 ด้าน โดยยุทธศาสตร์ 6 ด้าน จะเกาะเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ และอีก 4 ด้านจะเป็นยุทธศาสตร์เฉพาะตามแผนพัฒนา คือ 1.ยุทธศาสตร์การต่างประเทศประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค 2.การพัฒนาภูมิภาคเมืองและพื้นที่พิเศษ 3.วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิจัยและนวัตกรรม 4.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “6-6-4” ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สู่ยุทธศาสตร์แผนฯ 12
ด้านเลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า ทั้ง 10 ยุทธศาสตร์ในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 หลายส่วนยังคงมีความต่อเนื่องกับแผนฉบับที่ 11 อาทิ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทุนมนุษย์ เป็นการรองรับสังคมผู้สูงอายุ และมีการพัฒนาบุคคลากรภายในประเทศ ทั้งระบบการศึกษาไปจนถึงการพัฒนาฝีมือแรงงาน ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งแม้ว่าในช่วงการพัฒนาที่ผ่านมาไทยจะลดความยากจนลงได้บ้างและมีเป้าหมายที่ต้องลดให้ได้เหลือต่ำกว่า 7% ของประชากรทั้งหมด แต่ความเหลื่อมล้ำก็ยังคงฝังรากลึกอยู่เช่นเดิม
“เมื่อพิจารณาการกระจายรายได้ พบว่ากลุ่มที่รวยสุด 10% มีสัดส่วนรายได้ 35% ของรายได้รวมปี 2558 ขณะที่กลุ่มประชากร 40% ที่มีรายได้ต่ำสุด มีสัดส่วนรายได้เพียงร้อยละ 14.3% ของรายได้รวมเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีความเหลื่อมล้ำทางด้านสินทรัพย์และการถือครองที่ดิน และปัญหากระจายบริการภาครัฐที่มีคุณภาพที่ยังไม่ทั่วถึง”
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ สร้างบรรยากาศการลงทุน และปฏิรูปเศรษฐกิจในทุกมิติ เพื่อวางพื้นฐานให้ประเทศไทยเป็นประเทศรายได้สูงได้ภายในปี 2570 ขณะที่กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีเป้าหมายเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5% โดยมีรายได้ต่อหัวเป็น 8,200 เหรียญสหรัฐ ในปี 2564 จากที่มีรายได้อยู่ที่ 6,000 เหรียญสหรัฐ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยแผนฯ 12 จะเร่งขับเคลื่อนทั้งการรักษา ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 40% ของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 5 ความมั่นคง เหตุที่ สศช.ได้นำความมั่นคงมาอยู่ในแผนพัฒนาฯ เนื่องจากงานด้านความมั่นคงมีความสำคัญเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น กลุ่มก่อการร้ายรุนแรงสุดขั้ว จึงต้องให้ความสำคัญต่อการฟื้นฟูพื้นฐานความมั่นคงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงทางไซเบอร์ ระบบสื่อสาร พัฒนาเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันเพื่อรับมือภัยคุกคามต่างๆ
ยุทธศาสตร์ที่ 6 การบริหารจัดการภาครัฐ การป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ และธรรมาภิบาลในสังคมไทย โดยตั้งเป้าลดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบของประเทศ เพื่อเพิ่มคะแนนดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น (CPI) ให้อยู่สูงกว่า 50% จากปัจจุบัน 38% ผ่านการพัฒนาหลายด้าน เช่น ปรับปรุงกระบวนการงบประมาณ และสร้างกลไกในการติดตามตรวจสอบการเงินการคลังภาครัฐ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยุทธศาสตร์ที่ 7 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ โดยตั้งเป้าว่าในปี 2564 จะลดต้นทุนโลจิสติกส์เหลือ 12% ของจีดีพี เพิ่มการขนส่งทางรางเป็น 4% จาก 2% ทางน้ำเป็น 19% จาก 15% ขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ได้ 85% ของหมู่บ้านทั่วประเทศ เป็นต้น ยุทธศาสตร์ที่ 8 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม มีเป้าหมายสำคัญ คือ เพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาเป็น 1.5% ของจีดีพี จากปัจจุบัน 0.48% และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และด้านเทคโนโลยี จัดโดย IMD ให้อยู่ในลำดับ 1 ใน 30 ยุทธศาสตร์ที่ 9 การพัฒนาภาค เมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ เพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคของประเทศไทย ประกอบด้วย
-การพัฒนาภาคเหนือให้เป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง
-พัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้หลุดพ้นจากความยากจนก้าวสู่เป้าหมาย “อีสานพึ่งตนเอง”
-พัฒนาภาคกลางให้เป็นฐานเศรษฐกิจชั้นนำ และ
-พัฒนาภาคใต้เป็นฐานการสร้างรายได้ที่หลากหลาย ขณะที่พื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก จะเป็นศูนย์อุตสาหกรรมทันสมัย ใช้เทคโนโลยีสูง
"ยุทธศาสตร์ที่ 10 การต่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน และภูมิภาค โดยใช้ประโยชน์จากจุดเด่นของทำเลที่ตั้งของประเทศเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของแนวระเบียงเศรษฐกิจต่างๆ ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย"