เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ 3,000 บาท ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายร่วมไม่เกินวันละ 150 บาท นาน 3 เดือน เป็นวันแรก ตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนต่อเนื่อง ล่าสุดเวลา 14.00 น. มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 3.98ล้านคน ยังเหลือสิทธิ์อีกประมาณ 6.01ล้านสิทธิ์ จากเป้าหมาย 10 ล้านคน โดยเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com สามารถรับลงทะเบียนได้ราบรื่น ไม่มีปัญหาระบบล่ม
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า จะพยายามทำให้คนมาลงทะเบียนให้มากที่สุดเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10 ล้านคนให้ได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ได้สั่งการให้เร่งประชาสัมพันธ์ในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนให้มากที่สุด
ส่วนการชุมนุมทางการเมืองจะมีผลต่อความสนใจในการลงทะเบียนโครงการนี้หรือไม่นั้น กระทรวงการคลังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากนัก โดยจะทำหน้าที่ในการดูแลโครงการให้เดินหน้าต่อไปให้ราบรื่นเท่านั้น
“เราก็ต้องประชาสัมพันธ์กันต่อไป เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีให้แนวทางมาว่าต้องทำยังไงให้คนมาร่วมโครงการเยอะ ๆ ส่วนเรื่องม็อบก็ไม่ได้อะไร เราก็ทำหน้าที่ของเราไป ให้โครงการเดินหน้าต่อ”นายอาคม กล่าว
สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้มีขั้นตอนง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน คือ 1. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โดยกรอกข้อมูลชื่อ-สกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด และเบอร์โทรศัพท์ที่จะติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” 2. รอรับ SMS แจ้งผลการลงทะเบียน 3. ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตน และเมื่อดำเนินการครบก็สามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2563 ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ซึ่งผู้ได้รับสิทธิจะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิหรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก
ทั้งนี้ระบบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการพัฒนาโดยมีการขยาย bandwidth เพื่อรองรับการลงทะเบียนของประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้พร้อมกัน 100,000 คนต่อวินาที และไม่ได้มีการจำกัดผู้เข้าลงทะเบียนต่อวัน จึงขอเชิญชวนประชาชนที่มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งได้รับสิทธิจากโครงการอื่นแล้ว ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ โดยสามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่องจนกว่าจะครบ10 ล้านคน โดยผู้ได้รับสิทธิและใช้สิทธิ์ตามโครงการคนละครึ่งแล้ว จะไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการช็อปดีมีคืนได้ จึงขอให้พิจารณาเข้าร่วมโครงการหรือมาตรการที่เหมาะสมกับการใช้จ่ายของท่าน
สำหรับวิธีการใช้จ่ายกับร้านค้า ท่านสามารถเติมเงินโดยการโอนเงินของท่านไปยังแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตามต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องโอนครั้งเดียว 3,000 บาท เช่น หากท่านต้องการจ่ายค่าอาหาร 200 บาท ท่านต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 100 บาท เพื่อสแกนจ่ายเงินกับร้านค้า “ถุงเงิน” โดยรัฐจะช่วยจ่ายให้ร้านค้าอีก 100 บาท หรือหากท่านจะใช้จ่ายค่าสินค้าจำนวน 400 บาท รัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านค้า 150 บาท และท่านต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” เพื่อสแกนจ่ายเงินอีกอย่างน้อย 250 บาท ทั้งนี้ ภาครัฐจะร่วมจ่ายไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ