“นฤมล” ย้ำ ไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ มอบ กพร.ร่วมกับกับโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ฝึกอบรมวิชาชีพการดูแลผู้สูงอายุ หาทุนให้ฝึก 377 ทุนรวมกว่า 35 ล้านบาท
วันที่ 19 ตุลาคม 2563 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน สาขาการดูแลผู้สูงอายุ ระหว่าง นายชาคริตย์ เดชา รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับนายศรัณยู ชเนศร์ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทและกล้วยน้ำไทมูลนิธิ ณ โรงพยาบาลกล้วยนำไท 1 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เนื่องจากในปี พ.ศ. 2564 สังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี มีจำนวนถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่คนเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ การให้บริการและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่ปัจจุบันยังพบว่าจำนวนบุคลากรหรือแรงงาน ที่ให้บริการด้านการดูแลผู้สูงอายุยังขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อความต้องการ สอดคล้องกับภารกิจหลักของ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในการสนับสนุนส่งเสริมการสร้างทักษะแรงงาน ให้ได้มาตรฐาน เพื่อการประกอบอาชีพทั้งในและต่างประเทศ
ดังนั้น การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ถือว่ามีเป้าหมายและกลไกในการบูรณาการภารกิจร่วมกัน ระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว โดยจะร่วมกัน ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และจัดฝึกอบรมการดูแลผู้สูงอายุ ตามโครงการให้ทุนสร้างอาชีพพัฒนาฝีมือแรงงานไทยขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ระยะเวลาการฝึก 6 เดือน ณ โรงเรียนฝึกพนักงานโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
นายศรัณยู ชเนศร์ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทและกล้วยน้ำไทมูลนิธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี พ.ศ. 2563 – 2564 โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทมอบทุนเพื่อการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว จำนวน 377 ทุน ทุนละ 95,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 35,5815,000 บาท เพื่อร่วมกันพัฒนาแรงงานให้แก่ผู้ว่างงานหรือผู้ด้อยโอกาส ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะฝีมือ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน จนสามารถนำไปประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจและผู้ว่างงาน อายุระหว่าง 18 - 35 ปี สมัครเข้าฝึกอบรม และภายหลังจากจบการฝึกอบรมแล้ว จะได้รับการบรรจุเข้าทำงานกับกลุ่มบริษัทในเครือ และรับค่าตอบแทนประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน โดยให้มีการใช้ทุนระยะเวลา 2 ปี
“ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและตลาดการจ้างงาน โดยการยกระดับฝีมือให้คนไทยมีงานทำอย่างมีศักดิ์ศรี มีฝีมือที่ได้มาตรฐาน มีทักษะฝีมือตรงกับความต้องการ ประชาชนมีรายได้ ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ” รมช.กล่าวทิ้งท้าย