นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงปลายฤดูฝนเข้าสู่ต้นฤดูหนาวเป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงและอาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนได้ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งโรค RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่มีเชื้อไวรัสเป็นสาเหตุของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี จะพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือปลายฝนต้นหนาว อาการของโรค คือ มีไข้สูง ไอมากและมีเสมหะมาก ซึมลง หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ตัวเขียว จากการขาดออกซิเจน สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย ที่ปนปื้อนในสิ่งแวดล้อม เช่น โต๊ะ เก้อี้ ลูกบิดประตู ของล่น ฯลฯ และผ่านการหายใจเอาละอองจากการไอ จาม ของผู้ป่วยเข้าไปในร่างกาย โดยเชื้อไวรัสอาร์เอสวีสามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายชั่วโมงและสามารถอยู่ที่มือของเราได้นานประมาณ 30 นาที
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคโดยตรง แต่ใช้วิธีรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอละลายเสมหะ ในเด็กบางรายที่มีเสมหะมาก ต้องเคาะปอดและดูดเสมหะออกเพื่อลดความรุนแรงของอาการไอและหายใจหอบเหนื่อยได้ ยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์หากไม่มีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน การป้องกันโรคทำได้ ดังนี้ 1. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ 2. หลีกเลี่ยงการคลุกคลีหรือสัมผัสผู้ป่วย 3. ทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ 4. หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ทารกที่ได้รับควันบุหรี่จะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี และ 5. รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ดื่มน้ำมากๆ และให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ