“มนูญ ศิริวรรณ” ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อกิจการตามมาตรา 97(5) ประจำปีงบประมาณ 2562 ชี้ประเทศไทยมีศักยภาพ ในการผลิตและพัฒนาพลังงานทางเลือก ชี้ทิศทางพลังงานหลังวิกฤตโควิด19 ประชาชนให้ความสนใจพลังงานทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ แนะเร่งให้ความรู้ และข้อมูลแก่ประชาชน และชุมชนเรื่องพลังงานทางเลือกจากเชื้อเพลิงขยะ
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน และประธานเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อกิจการตามมาตรา 97(5) ประจำปีงบประมาณ 2562 กล่าวว่า ปัจจุบันทิศทางการพัฒนาและใช้พลังงานทางเลือกในประเทศไทย กำลังจะกลายเป็นกระแสหลักแทนพลังงานจากฟอสซิล ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการที่จะผลิต พัฒนา และใช้พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ ด้วยต้นทุนในการดำเนินงานที่ถูกลงและเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาให้ก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางด้านของการกักเก็บพลังงานที่เรียกว่า Energy Storage เพราะฉะนั้นในอนาคตนอกจากต้นทุนการผลิตจะถูกลงแล้ว ยังสามารถจะกักเก็บพลังงานไว้ใช้ได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ภาครัฐเองก็มีนโยบายในการส่งเสริมเรื่องการใช้พลังงานทางเลือก อาทิ โซลาร์ รูฟท็อป หรือการติดแผงผลิตไฟฟ้าบนหลังคา ประกอบกับลักษณะภูมิอากาศประเทศไทยที่มีแสงแดดเกือบตลอดทั้งปี ยิ่งสนับสนุนในเรื่องการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ดังนั้นในอนาคตเรื่องการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะมาทดแทนพลังงานจากฟอสซิลได้ค่อนข้างดี
ส่วนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะนั้นก็ถือเป็นพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันขยะทั่วไป รวมถึงขยะอุตสาหกรรม นับเป็นปัญหาที่ทุกประเทศต่างให้ความสำคัญ และมีการกำหนดนโยบายหรือมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้สามารถควบคุมหรือบริหารจัดการขยะให้มีประสิทธิภาพ การนำขยะมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้านั้น นับว่ามีประโยชน์ในหลายมิติ ทำให้ปริมาณขยะในแต่ละพื้นที่มีปริมาณลดลง ส่งผลดีต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
อย่างไรก็ตามการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะนั้น ยังคงต้องให้ความรู้ และทำความเข้าใจกับประชาชน และคนในชุมชนให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งเชื่อว่าเมื่อได้รับข้อมูลที่ถูกต้องแล้วจะให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน เพราะผู้ ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือชุมชนนั่นเอง
“หากพิจารณาความรู้ ความเข้าใจในเรื่องพลังงานทางเลือกของประชาชน และชุมชน ในปัจจุบันนั้นถือว่ามีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องพลังงานทางเลือกจากแสงอาทิตย์ เพราะนับว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวชาวบ้าน คือสามารถที่จะติดตั้งแผงโซลาร์ เพื่อรับพลังงานจากแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าใช้ได้ เห็นได้จากตามร้านที่จำหน่ายพวกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ก็มีจำหน่ายอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มากมาย ส่วนเรื่องของพลังงานทางเลือกจากเชื้อเพลิงขยะนั้น คงต้องใช้เวลา เพราะต้องไปดูว่าเขาใช้เทคโนโลยีอะไรในการกำจัดมลภาวะ และดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชน ซึ่งเรื่องนี้ชาวบ้านอาจจะยังไม่ค่อยมีความรู้ ความเข้าใจด้านนี้มากนัก ดังนั้นต้องอาศัยการเผยแพร่ข่าวสาร และข้อมูลที่ถูกต้องจากสื่อมวลชน และนำผู้นำความคิด หรือผู้นำชุมชนไปดูงานให้มากขึ้น”นายมนูญ กล่าว
ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า กล่าวต่อว่า ปัจจุบันพลังงานทางเลือกใหม่ ก็มีแนวโน้มที่จะขยายตัวออกไปทุกภาคส่วน ผู้ประกอบการก็มีความตื่นตัวที่อยากจะใช้พลังงานทางเลือกเป็นจุดขาย ยกอย่างเช่นธุรกิจบ้านจัดสรร หรือ ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ ถ้าโครงการบ้านจัดสรร หรือคอนโดมีเนียมมีการติดตั้งเรื่องของพลังงานแสงอาทิตย์ไปด้วยก็จะช่วยประหยัดพลังงานได้ และเป็นจุดขายของสินค้าไปด้วยเช่นกัน
“ทุกวันนี้กระแสโลกไปในทิศทางที่ลดการใช้พลังงานฟอสซิลลง และไปใช้พลังงานทางเลือก ซึ่งเป็นพลังงานสีเขียวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวิกฤตโควิด 19 ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตของผู้คนจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ผู้ประกอบการ และประชาชนก็ต้องมีการปรับตัว มีวิถีชีวิตที่เข้ากับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ต้องดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ให้ความสนใจกับพลังงานทางเลือก หรือพลังงานสีเขียวมากยิ่งขึ้น”นายมนูญ กล่าว