นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องพายุ “โมลาเบ” ในช่วงวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมาก กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง จึงได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ เนื่องจากเขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำอยู่เกือบเต็มอ่างฯ แต่ยังสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 27 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการระบายน้ำออกจากอ่างฯเลย
ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับปริมาณน้ำที่คาดว่าจะไหลลงอ่างฯเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนลำตะคองลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ ในอัตราวันละไม่เกิน 1 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 10 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำในพื้นที่เมืองนครราชสีมา ปัจจุบันแนวโน้มปริมาณน้ำท่าในลุ่มน้ำลำตะคองสายหลัก ตั้งแต่อาคารแบ่งน้ำละลมหม้อ ถึง ประตูระบายน้ำ(ปตร.)ข่อยงาม มีแนวโน้มลดลง ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 ชุมชน ของชุมชนมิตรภาพซอย 4 กลับสู่สภาวะปกติแล้ว ส่วนที่เหลือได้ผันไปตามลำบริบูรณ์ไปจนถึง ปตร.จอหอ ก่อนที่จะเร่งระบายน้ำผ่าน ปตร.กันผม เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำมูลตามลำดับ
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้เตรียมพร้อมรับมือในกรณีที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพายุ “โมลาเบ” ด้วยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำบริบูรณ์
“กรมชลประทาน ขอยืนยันว่าปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนลำตะคอง จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ รวมไปถึงบริเวณที่ไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมา เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำลำตะคองมีปริมาณต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร ประกอบกับปริมาณน้ำที่เคยท่วมขังได้ลงไหลสู่แม่น้ำมูลไปแล้ว จึงขอให้ประชาชนด้านท้ายเขื่อนอย่าได้วิตกกังวล”
ทั้งนี้ ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่2 เรื่อง พายุไต้ฝุ่น“โมลาเบ” (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ของประเทศไทยมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ตั้งแต่วันที่ 28-29 ต.ค.63
ได้สั่งการเฝ้าติดตามสถานการณ์พายุและสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่าอย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานสถานการณ์น้ำเป็นรายชั่วโมง หากเกิดสถานการณ์อุทกภัย ให้รายงานสาเหตุและปัญหาที่เกิดขึ้นรวมทั้งการช่วยเหลือมายังศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC)ส่วนกลาง
พร้อมพิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยไม่ให้กระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ พร้อมแจ้งเตือนก่อนการระบายไม่น้อยกว่า 3 วัน