ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นประธานในการประชุมติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร เพื่อเฝ้าระวัง พายุใต้ฝุ่น “โมลาเบ” พายุระดับ 5 ซึ่งจะส่งผลกระทบ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 28 – 30 ตุลาคม 2563 ว่า ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ลงวันที่ 28 ต.ค. 63 พายุไต้ฝุ่น “โมลาเบ” (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในเช้าวันที่ 28 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) ก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างในช่วงวันที่ 28-29 ตุลาคม 2563 ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรง ส่งผลทำให้ภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง
สำหรับจังหวัดที่เสี่ยงฝนตกหนักมาก มี 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี และจังหวัดที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก มี 21 ได้แก่ จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทรบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทั้งนี้ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและลมแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ในส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แสดงความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว จึงได้มอบหมายทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมป้องกันผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดความเสียหาย โดยกรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 138 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 96 เครื่อง รถแบคโฮ 15 คัน รถเครน 1 คัน รถบรรทุก 8 คัน กระสอบทราย 500 ใบ และเครื่องฉีดน้ำปูน (Grout) 1 เครื่อง กรมปศุสัตว์ จัดเตรียมเสบียงอาหารสัตว์ 5,600 ตัน ถุงยังชีพสำหรับสัตว์ 3,000 ถุง คอกสัตว์สำหรับตั้งจุดอพยพสัตว์ 30 ชุด และทีมสัตวแพทย์เคลื่อนที่ 325 หน่วย ได้ดำเนินการอพยพสัตว์แล้ว 4,082 ตัว แจกจ่ายเสบียงอาหารสัตว์พระราชทาน 39.2 ตัน (นครราชสีมา 12 ตัน เพชรบุรี 5.2 ตัน ประจวบคีรีขันธ์ 12 ตัน สระแก้ว 1 ตัน) สร้างเสริมสุขภาพสัตว์ 4,471 ตัว รักษาสัตว์ 19 ตัว และถุงยังชีพสำหรับสัตว์ 102 ถุง
พร้อมทั้ง สนับสนุนเรือตรวจประมงน้ำจืด จำนวน 3 ลำ ได้แก่ เรือตรวจประมงน้ำจืดลำตะคอง 03 ลำตะคอง 04 และลำตะคอง 13 พร้อมเจ้าหน้าที่ 34 นาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ตลอดจนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและประเมินความเสียหายหลังน้ำลด พร้อมกำชับให้หน่วยงานรายงานสถานการณ์มายังส่วนกลางเพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป