นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางระหว่างเดือน มกราคม – กันยายน 2563 มีมูลค่า 269,127.25 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.55 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หลังจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ไมอบนโยบายให้กระตุ้นการส่งออกสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในต่างประเทศ โดยมีกิจกรรมการลงนาม MOU ซื้อขายยางพาราระหว่างนักธุรกิจไทยกับต่างประเทศช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 อาทิ จีน อินเดีย ตุรกี เยอรมนี และสหรัฐ มีมูลค่าซื้อขายรวมกว่า 47,991 ล้านบาท และทยอยการส่งมอบมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ 135 คู่ มูลค่าการสั่งซื้อ 1,727 ล้านบาท
สำหรับตลาดที่มีการอัตราขยายตัวสูง เช่น สหราชอาณาจักร ร้อยละ 92.17 จีน ร้อยละ 34.38 เกาหลีใต้ ร้อยละ 7.45 และสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 5.42
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังทำให้ความต้องการสินค้าถุงมือยางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากหลายประเทศทั่วโลกที่ยังต้องเผชิญกับโรคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อินเดีย บราซิล และหลายประเทศในยุโรป ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกถุงมือยางไทยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
“บริษัทผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ในไทยหลายรายวางแผนขยายกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อรองรับกับคำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นและคาดว่าจะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงกลางปี 2564 “
ด้าน ดร.หลักชัย กิตติพล ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมยางพาราไทย ให้ความเห็นว่า ความต้องการใช้น้ำยางข้นในการผลิตถุงมือยางของตลาดโลกยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลให้ประเทศไทยสามารถส่งออกได้ดี