นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ม.ร.ว.รณจักร จักรพันธุ์ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันส่งมอบ "จุดจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชน ตามถนนสายหลักทั่วประเทศ" ที่สำนักงานเทศบาลตำบลโคกสูงสัมพันธ์ ตำบลโนนอุดม อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จัดหาน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำสะอาดทั่วประเทศ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้มีการดำเนินโครงการศึกษาสำรวจจุดจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชนตามถนนสายหลักทั่วประเทศ
เพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงแหล่งน้ำของประชาชน ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้ว 25 แห่ง คิดเป็นปริมาณน้ำรวม 981,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี และยังมีพื้นที่ดำเนินโครงการศึกษาการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน ซึ่งเป็นโครงการจัดหาแหล่งน้ำต้นทุนในการอุปโภคบริโภคให้ประชาชน จำนวน 279 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งน้ำเสริมช่วยลดค่าครองชีพ และเพิ่มจุดให้บริการน้ำบาดาลแก่ประชาชน ซึ่งประชาชนจะได้รับ ประโยชน์ 189,210 ครัวเรือน ปริมาณน้ำรวม 12 ล้านลูกบาศก็เมตรต่อปี
สำหรับรูปแบบของโครงการจุดจ่ายน้ำบาดาล เพื่อประชาชนตามถนน สายหลักที่สำนักงานเทศบาลตำบลโคกสูงสัมพันธ์ ตำบลโนนอุดม อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย บ่อผลิตน้ำบาดาล พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 บ่อ หอถังประปาสูง 16.72 เมตร ความจุ 65 ลูกบาศก์เมตรระบบผลิตน้ำดื่ม Reverse Osmosis (RO) อัตราการผลิตน้ำดื่ม 250 ลิตรต่อชั่วโมง และระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 3,200 วัตต์ สามารถให้บริการประชาชนครอบคลุมทั้งตำบลโนนอุดม 1,314 ครัวเรือน ประชากร 5,494คน รวมถึงประชาชนที่สัญจรไปมาบนถนนมะลิวัลย์แห่งนี้
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลพยายามที่จะลดการขุดเจาะบ่อบาดาลให้น้อยลง แต่จะสร้างระบบให้ใหญ่ขึ้น โดย 1 บ่อ สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั้งตำบล ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำโครงการบาดาลระยะไกลให้สามารถส่งน้ำบาดาลให้ประชาชนได้ใช้ทั้งตำบลหรือทั้งอำเภอ เพราะน้ำบาดาลถือว่าเป็นน้ำสะอาด คุณภาพดี และมีปริมาณมากกว่าน้ำผิวดิน นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาน้อยทำให้น้ำผิวดินไม่พอใช้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จึงเร่งสำรวจหาแหล่งน้ำบาดาลใหม่ เพื่อไม่ให้ประชาชนไม่ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในอนาคต