นายสุพจน์ พิบูลย์ หรือลุงนุ้ย เจ้าของร้านโชห่วย ย่านตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ภายหลังเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาล ทำให้ยอดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคภายในร้านเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ “ไข่ไก่” ครองอันดับ 1 สินค้าขายดี จากปกติตนสั่งซื้อจากฟาร์ม 20 แผง ต่อสัปดาห์ ทว่าปัจจุบันต้องร่นระยะเวลาเป็น 3 - 4 วัน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ส่วนสินค้าขายดีลำดับรองลงมา ได้แก่ ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาล
นอกจากนี้ “ลุงนุ้ย” ยังบอกด้วยว่า โครงการ “คนละครึ่ง” ทำให้ร้านค้าโชห่วยมีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น นอกจากลูกค้าประจำ ยังมีลูกค้าขาจรและลูกค้าหน้าใหม่ที่สนใจใช้สิทธิ์ในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ อยากให้ขยายเวลาโครงการต่อไปถึงปีหน้า
ขณะที่ นางสาวอรอนงค์ ฉิมแสง วัย 18 ปี เฟรชชี่คณะบริหารศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ซึ่งมาใช้บริการที่ร้านโชห่วยลุงนุ้ย และใช้สิทธิ์ “คนละครึ่ง” เล่าว่า พอใจในโครงการดังกล่าว เพราะทำให้ตนสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายพ่อแม่ในช่วงปลายปี ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลขยายเวลาโครงการถึงปีหน้า