นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุคโดยระบุว่า ได้อ่านหลายความคิดเห็น หลังจากที่ตัวเองได้โพสต์เกี่ยวกับธุรกิจการค้าออนไลน์ พบว่ามีหลายคำถาม ว่าทำไมประเทศไทย ไม่พัฒนาระบบ E-commerce Platform ของตัวเองบ้าง ทั้ง ๆ ที่ไทยมียอดการใช้จ่ายในโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกปี อุปสรรคคืออะไร ทำไมเรายังไม่ไปถึงจุดนั้น ผมว่าโอกาสเรามี แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะมีคนมองเห็นมันหรือไม่
เขากล่าวด้วยว่า โดยนอกเหนือจากเหตุการณ์โปรดุ 11.11 แล้ว ก็มีอีกหนึ่งโครงการที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน กับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ‘คนละครึ่ง’ ที่รัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่าย ในการซื้อสินค้าและบริการ ให้กับประชาชนครึ่งหนึ่ง ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยการเปิดให้ลงทะเบียน รอบ 2 นั้นครบกำหนดตามสิทธิ์อย่างรวดเร็ว ซึ่งตั้งแต่เปิดโครงการมา มียอดการใช้จ่ายผ่าน app "เป๋าตัง" ไปแล้วถึง 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินเหล่านี้ไปถูกกระจายไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ลงทะเบียนแล้ว กว่า 5.7 แสนร้าน รวมไปถึงแผงลอยตามตลาด ทำให้สามารถเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้ตามความตั้งใจ
“โดยโครงการนี้ 'ไม่อนุญาต' ให้ร้านค้าขนาดใหญ่ และโมเดิร์นเทรด เข้ามาสร้างความได้เปรียบแก่ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และภาครัฐกำลังพิจารณาที่จะเปิดรอบ 3 เพิ่มขึ้นอีกในช่วงปลายปี ขอให้ลองคิดตามนะครับ ว่ารัฐตอนนี้ได้ทำให้คน 12 ล้านคนยอมรับและคุ้นเคยกับการใช้ cashless มากขึ้น และเช่นเดียวกันผู้ค้ากว่า 600,000 รายก็เข้ามาอยู่ในระบบ ดิจิตอล ดังนั้นสิ่งที่รัฐมีมากมายคือ ‘Data ข้อมูล' ลองจินตนาการต่อไปว่าในอนาคต หากรัฐเปิดโอกาสให้เราคนไทย เสนอขายสินค้าโดยตรงกับผู้บริโภคตามฐานข้อมูลที่รัฐมี และรัฐยังช่วยสนับสนุนด้วยโปรโมชั่น ต่าง ๆรวมถึงบริการส่งของผ่าน ไปรษณีย์ไทย...นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ e-commerce platform ของไทยที่เรารอคอย” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า โดยสรุปคือข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มีประโยชน์อย่างมากต่อการนำมาพัฒนา E-commerce Platform ต่อในอนาคต นอกจากทำให้เงินไม่ไหลไป แพลตฟอร์มต่างประเทศแล้ว ยังช่วยให้สินค้าไทยมีพื้นที่ตลาดที่ชัดเจนของเราเอง ข้อมูล data พฤติกรรมคนไทยไม่รั่วไหลไปสู่ต่างชาติ รวมถึงสามารถช่วยประเทศไทยให้เข้าสู่ระบบ Cashless Society
นอกจากนี้ ปัญหาหนึ่งของรัฐไทยคือการทำงานแบบ ‘silo’ คือต่างคนต่างทำ อย่างกรณีนี้ข้อมูล ‘คนละครึ่ง’ อยู่ที่กระทรวงการคลัง แต่ผู้ที่มีพันธกิจสร้าง e-commerce platform คือ กระทรวงดิจิตอล และกระทรวงพาณิชย์ ดังนั้นการขับเคลื่อนจึงต้องมีวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์จากส่วนกลางที่ชัดเจนกว่านี้ นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายพร้อมกับย้ำว่า #ไทยจะดีกว่าถ้ากล้าลงมือทำ