บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ขึ้นแท่นสู่การเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลก โดยเป็นบริษัทไฟฟ้าไทยรายแรกที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices – DJSI) ในกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets Index) ประเภทอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคไฟฟ้า (Electric Utilities) ประจำปี 2563 เป็นปีแรก ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่รายแรกของประเทศไทย
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เอ็กโก กรุ๊ป เป็นบริษัทไฟฟ้าของประเทศไทยรายแรกที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI Emerging Markets ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันในฐานะผู้นำธุรกิจไฟฟ้าว่ามาตรฐานการพัฒนาด้านความยั่งยืนของบริษัทเทียบเท่ามาตรฐานระดับโลกและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลอดจนสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม ตามวิสัยทัศน์ “Energy for Life” มาโดยตลอด”
แนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเอ็กโก กรุ๊ป มุ่งเน้นการสร้างความเติบโตทางธุรกิจ ภายใต้หลักการกำกับกิจการที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ ควบคู่กับพันธกิจในการเป็นพลเมืองที่ดีด้วยการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมชุมชนและสังคมอย่างเกื้อกูล เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ครอบคลุมทั้งสังคมภายในและสังคมภายนอก เริ่มจากสังคมภายใน โดยกำหนดเรื่องการให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียเป็นส่วนหนึ่งในค่านิยมองค์กร สร้างความตระหนักและการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในการมุ่งลดผลกระทบเชิงลบและเพิ่มผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม ตลอดกระบวนการดำเนินธุรกิจ และขยายสู่สังคมภายนอกด้วยการส่งเสริมให้พนักงานใช้ศักยภาพและมีจิตอาสา โดยมีส่วนร่วมดำเนินโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมชุมชนและสังคมทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ควบคู่ไปกับการยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลมาอย่างต่อเนื่อง
“การได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI ระดับสากลครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากผลักดันและการสนับสนุนในเชิงนโยบายของคณะกรรมการบริษัท การขับเคลื่อนของผู้บริหาร ความร่วมมือของพนักงานทุกคนในองค์กร และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนร่วมกันในการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น และสร้างสมดุลทุกด้านท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต” นายเทพรัตน์ กล่าวสรุป
DJSI จัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือของ S&P Global และ SAM ถือเป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมทั้งเป็นดัชนีที่กองทุนต่างๆ จากทั่วโลกใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงในการพิจารณาการลงทุน โดยบริษัทที่ได้รับการรับรอง DJSI จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้แก่นักลงทุน รวมถึงการสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย