การประชุม APEC CEO 2020ซึ่งสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC) จัดให้มีขึ้น เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2563 เพื่อเป็น Dialogues ให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและผู้นำภาคธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกร่วมกันหารือในประเด็นที่มีผลกระทบต่อภูมิภาคก่อนเปิดการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค)ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 โดยประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมครั้งนี้
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณะรัฐประชาชนจีน ได้มากล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “สร้างรูปแบบใหม่แห่งการพัฒนา บรรลุการพัฒนาที่อำนวยประโยชน์แก่กัน” ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกลจากกรุงปักกิ่ง ความว่า ประชาคมโลกเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกประเทศจึงต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 และร่วมกันผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยประเทศจีนกำลังพยายามสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ๆ และพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน
“การระบาดของโควิด-19 ทุกประเทศต้องดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน เชิดชูส่งเสริมเจตนารมณ์แห่งความเป็นหุ้นส่วน กระชับการแลกเปลี่ยนและประสานนโยบาย ลงลึกถึงความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการต้านโควิด-19 ยืนหยัดการสร้างเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง และพยายามเอาชนะการระบาดของโควิด-19 โดยเร็ว ตลอดจนพยายามทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน สมดุล และเป็นเอกภาพ”
นายสี จิ้นผิง กล่าวเน้นว่า พื้นฐานที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจจีนพัฒนาอย่างมั่นคงและมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาวนั้นไม่เปลี่ยนแปลง โดยจะศึกษาการพัฒนาต่อไปตามหลักวิทยาศาสตร์ ยืนหยัดปฏิบัติตามแนวความคิดการพัฒนาใหม่ ทั้งยังพยายามสร้างรูปแบบใหม่แห่งการพัฒนาอีกด้วย
ประการแรกจีนจะขยายความต้องการภายในประเทศซึ่งมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และการหมุนเวียนของเศรษฐกิจประชาชาติ โดยจะปฏิรูปโครงสร้างอุปทานเพื่อนำมาซึ่งความสมดุลที่มีการแลกเปลี่ยนกันด้วยดีในระดับสูง กล่าวคือ ให้ความต้องการขับเคลื่อนอุปทานและในทางกลับกันจะให้อุปทานสร้างความต้องการ
ประการที่สองจีนจะทุ่มเทการสร้างนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจ ผลักดันยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการพัฒนาด้วยการสร้างนวัตกรรม รวมทั้งยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
ประการที่สามจีนจะลงลึกการปฏิรูปอย่างต่อเนื่องและกระตุ้นให้ตลาดมีชีวิตชีวา โดยกล้าที่จะใช้มาตรการต่างๆ มากขึ้นในการขจัดอุปสรรคทั้งด้านกลไกเชิงลึก สนับสนุนให้ระบบการบริหารและทักษะการบริหารประเทศมีความทันสมัยมากขึ้น
นายสี จิ้นผิง กล่าวเน้นว่า จีนได้เข้าร่วมกับเศรษฐกิจโลกและระบบสากลมานานแล้ว การสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่นั้นไม่ได้หมายความว่าจีนจะทำการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจแบบปิดภายในประเทศอย่างเด็ดขาด แต่หมายความว่าจีนจะทำให้เกิดการหมุนเวียนแบบเปิดทั้งภายในและระหว่างประเทศ และแลกเปลี่ยนสนับสนุนซึ่งกันและกัน
ซึ่งภายใต้รูปแบบการพัฒนาใหม่นี้ จีนจะสามารถปล่อยศักยภาพของตลาดออกมาได้อย่างเต็มที่และจะสร้างความต้องการมากขึ้นแก่ประเทศต่าง ๆ โดยจะลดภาษีศุลกากรและต้นทุนธุรกรรมด้านต่าง ๆ เปิดเขตนำร่องที่ส่งเสริมและสร้างนวัตกรรมการค้านำเข้าจำนวนหนึ่ง เพื่อเพิ่มการนำเข้าสินค้าและบริการที่มีคุณภาพระดับสูงจากทั่วโลก โดยจีนจะเปิดประตูให้กว้างขึ้น เพื่อผลักดันเสรีทางการค้าและการลงทุน อีกทั้งจะปรับปรุงกฏระเบียบต่างๆ ในด้านการลงทุนให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยคุ้มครองสิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัททุนต่างชาติ ขยายการเปิดสู่ภายนอกของภาคบริการอย่างเป็นขั้นตอน พัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เน้นระบบตลาด ให้เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นแบบสากลต่อไป พร้อมทั้งจะมอบหมายให้เขตการค้าเสรีนำร่องมีสิทธิและอำนาจในการปฏิรูปมากขึ้น ตลอดจนยืนหยัดสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีและจะพยายามมีส่วนร่วมในการปฏิรูประบบบริหารเศรษฐกิจโลกให้มากขึ้น
นายสี จิ้นผิง กล่าวอีกว่า จีนจะให้ความร่วมมืออย่างจริงใจ กับประเทศต่างๆ ในโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุการพัฒนาที่อำนวยประโยชน์ต่อกัน โดยจะพยายามเข้าร่วมการแบ่งงานกันทำระหว่างประเทศ การรวมตัวของห่วงโซ่อุตสาหกรรม ห่วงโซ่อุปทาน และห่วงโซ่คุณค่าโลกอย่างมีประสิทธิภาพ จีนยินดีที่จะร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ โดยยึดหลักความเป็นพหุภาคี ร่วมปรึกษาหารือและแบ่งปันขับเคลื่อนการดำเนินการ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่มีคุณภาพในระดับสูงและเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“เอเชีย-แปซิฟิกเป็นเสมือนบ้านที่เราอยู่ร่วมกัน เมื่อปีที่แล้ว ข้าพเจ้าเสนอให้สร้างประชาคมเอเชีย-แปซิฟิกที่มีอนาคตร่วมกันซึ่งมีลักษณะเปิดกว้าง รวมตัวกัน พัฒนาด้วยพลังขับเคลื่อนจากนวัตกรรม เชื่อมต่อความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน เราต้องตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า เราเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ต้องผลักดันความเป็นหนึ่งเดียวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความหวังของเราค่อย ๆ ปรากฏเป็นจริงขึ้นและนำความผาสุกมาสู่ประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และที่สำคัญคือ เราจะชนะการระบาดของโควิด-19 อย่างแน่นอน ขอให้เราร่วมมือกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ยืนหยัดการเปิดสู่ภายนอกและความร่วมมือ รวมทั้งให้การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจทั้งภายในและระหว่างประเทศมีความคล่องตัว เพื่อร่วมสร้างและร่วมแบ่งปันอนาคตที่ดีงามยิ่งขึ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตลอดจนทั่วโลก”นายสี จิ้นผิง กล่าวทิ้งท้าย