ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 56/2559 เรื่อง การคุ้มครองการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในการดูแลของรัฐและการดำเนินการต่อผู้ต้องรับผิด ตามที่ได้มีการดำเนินการโครงการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรับจำนำข้าวเปลือก โครงการแทรกแซงมันสำปะหลัง หรือโครงการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปรากฏว่าในปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรดังกล่าวคงเหลือในการดูแลของรัฐที่เก็บอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก หากการเก็บรักษาและการควบคุมดูแลหรือการระบายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเหล่านี้ออกสู่ตลาดอย่างไม่รอบคอบรัดกุมหรือไม่สุจริต กรณีเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเพราะรัฐต้องจัดสรรงบประมาณเป็นจำนวนมากเพื่อไม่ให้การบริหารจัดการและการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่คงเหลือเกิดความเสียหายแก่รัฐเพิ่มขึ้น ในขณะที่รัฐต้องเร่งตรวจสอบปริมาณและคุณภาพรวมทั้งวางมาตรการระบายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรออกสู่ตลาดให้เหมาะสม มิฉะนั้นจะเสื่อมสภาพจนเสื่อมราคา กระทบต่อราคาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในฤดูกาลปัจจุบันและฤดูกาลใหม่ที่จะมาถึงจนเกิดความเสียหายอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจ ทั้งต้องดำเนินการต่อผู้ต้องรับผิดเพื่อให้ชดใช้ความเสียหายแก่รัฐอันเป็นความจำเป็นเพื่อป้องกันและระงับความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1ให้บุคคล คณะบุคคล คณะทำงาน คณะกรรมการ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายหรือได้รับมอบหมายจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีผู้เกี่ยวข้อง คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง หรือคณะกรรมการนโยบายข้าวโพด ให้ดำเนินการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังหรือข้าวโพดที่อยู่ในการดูแลรักษาของรัฐ ดังต่อไปนี้
(1) โครงการแทรกแซงมันสำปะหลังของรัฐ ตั้งแต่ปีการผลิต 2551/2552 จนถึงปีการผลิต 2555/2556 ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 หรือภายหลังจากนั้น
(2) โครงการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/2552 ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 หรือภายหลังจากนั้นยังคงมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการดังกล่าวต่อไปเช่นเดิม ทั้งนี้ เพื่อระงับยับยั้งมิให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเพิ่มขึ้นเพราะเหตุแห่งความเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังหรือข้าวโพด การแตกต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์หัวมันสำปะหลังสดหรือข้าวโพดที่รับจำนำกับราคาที่จำหน่ายได้ การที่รัฐต้องรับภาระค่าเช่าคลังค่าประกันภัย ค่าดูแลรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังหรือข้าวโพด ค่าใช้จ่ายอื่นและดอกเบี้ย และเพื่อป้องกันมิให้การระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังหรือข้าวโพดเป็นการเพิ่มอุปทานตลาดในช่วงเวลาเดียวกับที่มีผลผลิตฤดูกาลใหม่โดยไม่สมควร รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้ทราบตัวผู้ต้องรับผิดและเรียกให้ผู้นั้นชดใช้ความเสียหายแก่รัฐตามกฎหมาย
ในกรณีที่บุคคลตามวรรคหนึ่งได้กระทำการไปตามอำนาจหน้าที่โดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติและไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น ย่อมได้รับความคุ้มครองและไม่ต้องรับผิดทางแพ่งทางอาญา หรือทางวินัย แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
ข้อ 2 เมื่อได้มีคำสั่งทางปกครองของหน่วยงานของรัฐหรือคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลแล้วแต่กรณี ให้มีการบังคับทางปกครองต่อผู้ต้องรับผิดตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐ ตั้งแต่ปีการผลิต 2548/2549 จนถึงปีการผลิต 2556/2557 โครงการแทรกแซงมันสำปะหลังของรัฐตั้งแต่ปีการผลิต 2551/2552 จนถึงปีการผลิต 2555/2556 หรือโครงการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2551/2552 ให้กรมบังคับคดีมีอำนาจหน้าที่ในการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เพื่อบังคับการให้เป็นไปตามคำสั่งหรือคำพิพากษาดังกล่าว และให้ได้รับความคุ้มครองตามข้อ 1 วรรคสอง ด้วย
ข้อ 3 ให้บุคคลตามข้อ 1 วรรคหนึ่ง ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ที่ต้องดำเนินการใด ๆ ตามคำสั่งทางปกครองของหน่วยงานของรัฐหรือคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล แล้วแต่กรณี ให้มีการดำเนินการต่อผู้ต้องรับผิดตามโครงการแทรกแซงมันสำปะหลังของรัฐ ตั้งแต่ปีการผลิต 2551/2552 จนถึงปีการผลิต 2555/2556 หรือโครงการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/2552 ได้รับความคุ้มครองตามข้อ 1 วรรคสอง ด้วยให้นำความในวรรคหนึ่ง ไปใช้บังคับกับการดำเนินการต่อผู้ต้องรับผิดในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐ ตั้งแต่ปีการผลิต 2548/2549 จนถึงปีการผลิต 2556/2556 ด้วย