นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อเรือตรวจการณ์ของ กทม. โดยสำนักเทศกิจ กทม. จำนวน 3 ลำ รวมวงเงินประมาณ 44 ล้านบาท โดยพบว่า อาจมีพฤติการณ์ส่อกันฮั้วประมูล และล็อคสเปกได้
นายวิลาศ กล่าวว่า สำนักเทศกิจ กทม. ได้จัดซื้อเรือตรวจการณ์ 3 ลำ ได้แก่ เรือตรวจการณ์ไฟเบอร์กลาส ความยาว 38 ฟุต 250 แรงม้า ราคา 6.5 ล้านบาท ลำที่สองขนาดความยาว 45 ฟุต 300 แรงม้า ราคา 11 ล้านบาท และลำที่สามเป็นเรือตรวจการณ์อเนกประสงค์ 450 แรงม้า ราคา 26.5 ล้านบาท โดยเฉพาะเรือลำที่สามที่พบว่า ภายในอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน แต่ไม่พบว่ามีอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ นอกจากนี้ยังอาจเป็นไปได้ว่า อาจมีการฮั้วประมูล โดยมีการเขียนสเปกเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางบริษัท โดยเฉพาะขั้นตอนการร่างขอบเขตของงาน (TOR) ที่มีการระบุให้นำผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากโรงงานในประเทศหรือต่างประเทศ แต่ในขั้นตอนการจัดซื้อจริงกลับมีการประกอบเรือขึ้นมาใหม่โดยอู่ต่อเรือแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา
นายวิลาศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัทที่เข้ามาซื้อซอง และยื่นซองประมูลทั้ง 5 บริษัท อาจเป็นเครือข่ายเดียวกัน โดยบริษัทที่ชนะการประมูล อาจเป็นเครือข่ายของบริษัทหนึ่งที่เข้ามายื่นซองประมูล และอีก 3 บริษัทที่เข้ามายื่นซองประมูลอาจมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นจึงอาจผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) ส่วนผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการร่าง TOR อาจเข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้ ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางรายได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ดังนั้นจึงอยากขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่งดำเนินการไต่สวนโดยเร็ว เพราะตามอำนาจของ ป.ป.ช. จะไต่สวนเจ้าหน้าที่ที่เกษียณไปแล้วได้แค่ 1 ปีภายหลังเกษียณเท่านั้น