นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านนายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผอ.กลุ่มวิเคราะห์และพิสูจน์หลักฐานเบื้องต้น สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษถึงนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการปปช.เรื่องการทุจริตการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กรณีการขยายเวลาเอื้อประโยชน์ให้เอกชน เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายสรศักดิ์ เพียรเวช ขณะเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกับพวก โดยสัญญาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทำขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ครบ 900 วัน ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ตามสัญญาข้อ 20 ระบุว่าหากก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญาต้องเสียค่าปรับวันละประมาณ 12 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 นายสรศักดิ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานตรวจการจ้างจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีกรรมการเพียง 10 คน ต่อมาแต่งตั้งเพิ่มอีก 2 คน มีมติให้ขยายเวลาให้ผู้รับเหมาครั้งแรกทันทีถึง 387 วัน ทั้งที่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าคณะกรรมการตรวจการจ้างชุดเก่ามีนายวีระพันธ์ มุขสมบัติ เป็นประธาน มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกวิชาชีพกว่า 26 คน มีมติเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2558 ให้ขยายเวลาเพียง 287 วัน และกลุ่มบริษัท ATTA ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ก็ได้เห็นชอบการขยายเวลาดังกล่าว ดังนั้น คณะกรรมการชุดที่นายสรศักดิ์เป็นประธานยอมขยายเวลาให้ผู้รับเหมาเพิ่มอีก 100 วัน เป็น 387 วัน จึงทำให้ราชการเสียประโยชน์และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน
หนังสือร้องเรียนของนายวัชระ ยังระบุอีกว่านายสรศักดิ์ ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจให้เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 นายสรศักดิ์ได้อนุมัติให้ขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภา ครั้งที่ 2 จำนวน 421 วัน จากวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 โดยอ้างเหตุปัญหาเรื่องดินขุดจากบริเวณก่อสร้าง ต่อมาวันที่ 16 มกราคม 2561 นายสรศักดิ์ ยังอนุมัติให้ขยายเวลาครั้งที่ 3 จำนวน 674 วัน (จากวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2562) โดยอ้างเหตุส่งมอบพื้นที่โรงเรียนโยธินบูรณะ ศูนย์สาธารณสุข38 และอื่นๆ ทั้งๆที่สภาฯได้ส่งมอบพื้นที่ครบ 100% ไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 รวมนายสรศักดิ์ เป็นผู้อนุมัติให้ขยายเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เกินกว่าสัญญาหลัก 900 วันโดยให้ขยายเวลาครั้งที่ 1-3 รวมทั้งสิ้นถึง 1,482 วัน
ยิ่งไปกว่านั้น นายสรศักดิ์ ยังอนุมัติให้ขยายเวลาครั้งที่ 4 อีก 382 วันจากวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยไม่สนใจคำทักท้วงของกลุ่มงานพัสดุสำนักการคลังและงบประมาณ และสำนักกฎหมาย สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้ให้ความเห็นชอบการขยายเวลา และรวมถึงกลุ่มบริษัท ATTA เห็นว่าไม่ควรอนุมัติขยายเวลาการก่อสร้างแต่ประการใด รวมระยะเวลาที่นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อนุมัติให้ขยายครั้งที่ 1-4 รวมทั้งสิ้น 1,864 วันเกินกว่าสัญญาหลักถึง 2 เท่าทำให้ทางราชการเสียประโยชน์และเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชนอย่างเห็นได้ชัด
จึงต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อปปช.ให้ดำเนินการกับนายสรศักดิ์ ขณะเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกับพวกว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มาตรา 157 และกฎหมายปปช. โดยนายวัชระยินดีจะไปให้ปากคำด้วยตนเองต่อปปช.โดยด่วนที่สุด