นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงานส่งเสริมการตลาดเชิงรุกและสร้างการรับรู้ในเชิงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ “Coconut Festival” โครงการแปรรูปมะพร้าวครบวงจรสู่สินค้ามูลค่าสูง (High Value)ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ
นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นความสำคัญในการยกระดับหรือเพิ่มมูลค่ามะพร้าว เพราะมะพร้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ มีโอกาสในการพัฒนาและขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานโดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ-ภาคเกษตรกร กลางน้ำ-ภาคอุตสาหกรรมอย่าง SMEs และปลายน้ำ-การตลาดที่เป็นธุรกิจที่ทำการส่งออกผลิตภัณฑ์มะพร้าว ซึ่งอุตสาหกรรมมะพร้าวได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 1. ผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อการบริโภค เช่น อุตสาหกรรมมะพร้าวแห้ง อุตสาหกรรมน้ำมันมะพร้าว อุตสาหกรรมกะทิเข้มข้น อุตสาหกรรมมะพร้าวฝอยแห้ง อุตสาหกรรมน้ำตาลมะพร้าว และ 2.อุตสาหกรรมเพื่ออุปโภค เช่น อุตสาหกรรมเส้นใยมะพร้าว อุตสาหกรรมแท่งเพาะชำ อุตสาหกรรมเผาถ่านจากกะลามะพร้าว และปัจจุบันมะพร้าวเป็นสินค้าที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดี มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรมและมีการส่งออกในหลากหลายผลิตภัณฑ์ แต่ยังประสบปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ กระทรวงอุตสาหกรรม จึงมีได้มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี หรือกลุ่มจังหวัดเพชรสมุทรคีรี จัดทำโครงการแปรรูป มะพร้าวครบวงจรสู่สินค้ามูลค่าสูง (High Value) ผ่านกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐจัดงาน“Coconut Festival” เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีช่องทางพบปะผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยแนะนำการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปมะพร้าวและเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบมาตรฐานสากล (GMP, HACCP, Halal และ อย.)
“การจัดงาน Coconut Festival ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตนสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง และยังเป็นโอกาสที่ดีที่ให้ผู้ประกอบการได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ มาช่วยในการแนะนำการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปมะพร้าวต่อยอดด้วย นวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปมะพร้าวครบวงจรสู่สินค้ามูลค่าสูง (High Value) ด้วยองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมและเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยส่งเสริมการตลาดเชิงรุกกลุ่มลูกค้าเฉพาะ (Niche Market) จะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการพัฒนาและขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อภาคเกษตรกรผู้ปลูกและจำหน่ายมะพร้าวให้มีรายได้เพิ่มยิ่งขึ้น และในโอกาสนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID 19) นั้น กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐก็ได้มีโครงการเพิ่มวงเงินให้แก่เอสเอ็มอีที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อของกองทุนฯ และการพักชำระหนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย”