ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการ "บวร บี.กริม" (B.Grimm Smart Village) เพื่อสร้างชุมชนให้เติบโตเข้มแข็ง มีคุณภาพและศักยภาพ โดยมีเป้าหมายให้ทุกคนมีงานทำ มีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืน มีความรักถิ่นฐานบ้านเกิด ดำรงชีวิตอย่างสมดุลและมีความสุข โดยน้อมนำแนวพระราชดำริ "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" และ "บวร (บ้าน วัด โรงเรียน)" ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้กับบริบทของชุมชน
โครงการ "บวร บี.กริม" เปิดตัวที่หมู่บ้าน บี.กริม ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 8 ต.คลองทับจันทร์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วโดยมีเป้าหมายสร้างเป็นชุมชนต้นแบบให้กับหมู่บ้านต่างๆ สอดคล้องกับปรัชญาการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีของ บี.กริม ซึ่งก่อตั้งมา 142 ปี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และเติบโตอยู่เคียงคู่สังคมไทยมาอย่างมั่นคงและยาวนาน โดยมุ่งมั่นพัฒนาชุมชน สังคม และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ในโอกาสเปิดตัวโครงการ "บวร บี.กริม" บริษัทยังได้เป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนบูรณะศาลาการเปรียญ ซึ่งเกิดชำรุดเสียหาย ณ วัดบี.กริม เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
โรงเรียนบี.กริม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 เริ่มแรกเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จนเมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี "สมเด็จย่า" ของปวงชนชาวไทย เสด็จเยี่ยมเยียนประชาชนและโรงเรียนตชด. ในพื้นที่บริเวณคลองทับจันทร์ โดยมี มร.เฮอร์เบิร์ต ลิงค์ ผู้บริหารบี.กริมรุ่นที่ 2 และภรรยา คุณหญิง อัลม่า ลิงค์ ร่วมตามเสด็จมาด้วย ทั้ง มร.เฮอร์เบิร์ต และคุณหญิงอัลม่า มีจิตกุศลได้บริจาคเงินถวายเป็นพระราชกุศลเพื่อสร้างอาคารเรียนหลังแรกให้กับโรงเรียนตชด. คลองทับจันทร์ และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ สมเด็จย่าได้เสด็จมาเปิดอาคารเรียนแห่งนี้ พร้อมพระราชทานชื่อเป็น "โรงเรียนบี.กริม" ต่อมาหมู่บ้านและวัดของชาวบ้าน ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "หมู่บ้านบี.กริม" และ "วัดบี.กริม" ตามลำดับ เพราะเป็นชื่อเดียวกับโรงเรียนที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จย่าเมื่อปี 2514
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า "หมู่บ้านบี.กริม" ถือเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง ด้วยความร่วมมือของชาวบ้าน วัด และโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันยังมีอีกหลายสิ่งที่สามารถพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยอาศัยพลังความสามัคคี และการมีส่วนร่วมของทุกคนในชุมชน ซึ่งบี.กริม พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาหมู่บ้านบี.กริม ให้ประสบความสำเร็จ ทำให้ทุกคนมีความสุข มีความสมดุลในชีวิต มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน
นางอัญชลี ชวนิชย์ กรรมการบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานโครงการ บวร บี.กริม กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นหนึ่งในโครงการที่ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานกลุ่มบี.กริม ได้นำเรียนเสนอต่อรัฐบาลเพื่อทำโครงการพัฒนาชุมชนระดับพื้นที่ที่จะพัฒนารากฐานของประเทศ ซึ่งหมู่บ้าน บี.กริม มีความเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในประเทศ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก มีเนื้อที่ประมาณ 4,200 ไร่ ชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนมี 90 ครัวเรือน ประมาณ 400 คน ที่สำคัญ คือ มีคอนเซ็ปต์ของ "บวร" คือ บ้าน วัด โรงเรียน ที่อยู่ร่วมกันอย่างชัดเจน
โดยตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานได้ลงพื้นที่ทำแบบสำรวจเพื่อศึกษาข้อมูลและความต้องการในด้านต่าง ๆ ซึ่งพบว่าผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนผ่าน 3 สถาบันหลัก คือ บ้าน วัด โรงเรียน ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าอาวาส และผู้อำนวยการโรงเรียนบี.กริม ต่างมีความเข้มแข็ง เป็นนักพัฒนา และนักประสานที่ทำให้โครงการบวร บี.กริม ขับเคลื่อนไปข้างหน้า โดยคาดหวังว่า เมื่อชุมชนเข้มแข็ง มีผลผลิตที่ยั่งยืน มีเศรษฐกิจดี มีรายได้มั่นคงต่อเนื่อง สมาชิกที่เคยละถิ่นฐานไปหางานทำที่อื่นก็จะหวนกลับคืนมาบ้าน เพื่อมาทำประโยชน์ให้กับท้องถิ่นของตนเอง
โครงการบวร บี.กริม ยังมีทีมขับเคลื่อนที่สำคัญอย่าง "สถาบันอาศรมศิลป์" นำโดย อ.ประยงค์ โพธิ์ศรีประเสริฐ ที่ล่าสุดได้ออกแบบปรับปรุงศาลาการเปรียญวัดบี.กริม โดยมีนักเรียนและคุณครูโรงเรียนบี.กริม เข้ามามีส่วนร่วมกันตั้งแต่ต้นในการลงพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมี ดร.เอนก นาคะบุตร ปรมาจารย์ด้านพัฒนาชุมชน เข้ามาช่วยวางแนวทางการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม
ดร. เอนก นาคะบุตร นักพัฒนาท้องถิ่นชุมชน กล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนในพื้นที่ว่า เริ่มจากการมีส่วนร่วมกันของคนในชุมชน โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และลูกบ้าน จัดเป็นกลุ่มอาชีพต่าง ๆ มาร่วมกันออกแบบว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า พวกเขาต้องการเห็นหมู่บ้านพัฒนาไปในรูปแบบไหน ต้องการเห็นอะไรในอนาคต และจะเดินไปข้างหน้าร่วมกันอย่างไร จากนั้น จึงนำตวามฝันเล็กๆ ของทุกคนมารวมกันเป็นภาพใหญ่ เพื่อวาง "วิสัยทัศน์" และกำหนดเป็น "เป้าหมายหมู่บ้าน" ก่อนสรุปเป็นแนวทางภาคปฏิบัติให้ทุกคนร่วมขับเคลื่อนชุมชนไปสู่เป้าหมายอย่างยั่งยืน โครงการ "บวร บี.กริม" เป็นหนึ่งในโครงการหลักเพื่อสังคมของบี.กริม ที่สะท้อนหลักปรัชญาของบริษัทที่มุ่งมั่นพัฒนาชุมชนให้ก้าวสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนในสังคม